วันที่ 16 เม.ย. เวลา 10.00 น. ที่ บก.ปคบ. กลุ่มผู้เสียหายเกือบ 10 คน เข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีถูกโกงซื้อหน้ากากอนามัย โดยมีการโอนเงินให้แต่ไม่มีการส่งสินค้า มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และ มีการแอบอ้างชื่อบริษัทผลิตหน้ากากอนามัยได้รับความเสียหาย คาดว่ายังมีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน และมีความเสียหายอีกว่า 5 ล้านบาท
นางสาวสาวินี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเอง เห็นมีการโพสต์ขายหน้ากากอนามัยจากเฟสบุ๊คของบุคคลที่เคยทำการซื้อ-ขายเสื้อผ้าร่วมกัน ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยอ้างว่าสามารถสั่งซื้อหน้ากากอนามัย ได้โดยตรงจากโรงงานผลิตในราคาต้นทุนและสามารถนำมาขายได้ในราคากล่องละ 125 บาท จึงวางใจตกลงซื้อสินค้าสั่งซื้อสินค้าพร้อมโอนเงินไปเมื่อกลางเดือนมีนาคม ซึ่งตามกำหนดการจะต้องได้สินค้าช่วงปลายเดือน แต่ต่อมามีการบ่ายเบี่ยงว่าโรงงานมีปัญหาไม่สามารถส่งสินค้าตามกำหนดจะขอเลื่อนส่งไปอีก 15 วัน แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้ เมื่อเรียกขอดูหลักฐานว่ามีการโอนเงินให้โรงงานจริงหรือไม่ก็ไม่สามารถแสดงหลักฐานให้ดูได้อีกทั้งผู้เสียหายบางคนก็เคยได้รับสำเนาสัญญาปลอมที่คู่กรณีนำมาแอบอ้างจนกระทั่งเมื่อมีการตรวจสอบไปยังเจ้าของโรงงานที่รับผลิตหน้ากากอนามัยจึงพบว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริงและคู่กรณีก็ออกมายอมรับกับผู้เสียหายว่าไม่สามารถจัดหาสินค้าให้ได้ตามที่ตกลงจะขอคืนเงินให้ในวันที่ 20 เมษายน
ด้านนางสาวรัตน์ติภรณ์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการ ที่ถูกทำสัญญากล่าวอ้างว่า ผลิตหน้ากาก ยอมรับว่าบริษัทตนผลิตหน้ากากอนามัยจริง แต่เป็นการทำส่งให้กับอุตสาหกรรมเท่านั้นไม่เคยผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์และไม่เคยประกาศขายทางออนไลน์ ยืนยันไม่รู้จักและเกี่ยวข้องกับคนที่แอบอ้างบริษัทตน แต่คาดว่าที่ถูกนำชื่อไปใช้ในหลอกผู้เสียหายจำนวนมาก ครั้งนี้มาจากการที่กรมการค้าภายในเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตหน้ากากอนามัยและเป็นข่าวเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา