อาชญากรรม

ผู้เสียหาย ร้องกองปราบ เอาผิด หนุ่มหน้าตาดี สารพัดวิธีโกง พบผู้เสียหาย กว่า 30 ราย สูญเงินกว่า 2 ล้า

 

ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย 4 คน ที่ถูกชายหนุ่มหน้าตาดี อายุ 25 ปี รายหนึ่ง หลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ รวมตัวกัน เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีกับชายหนุ่มรายนี้ โดยได้นำหลักฐานบันทึกการสนทนาการซื้อขายสินค้า , คลิปเสียงชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน และพฤติการณ์ก่อเหตุอื่นๆ ประกอบการพิจารณาด้วย

ผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็น นักกีฬาเกมอีสปอร์ต เปิดเผยว่า รู้จักกับชายคนนี้ หลังมีรุ่นน้องแนะนำให้มาเป็นโค้ชดูแลการฝึกเพื่อเลื่อนระดับชั้น โดยชายคนนี้อ้างว่ามีเส้นสายสามารถพาไปเข้าค่ายบูสท์แคมป์ได้ โดยเสียค่าใช้จ่าย 15,000 บาท หลังตอบตกลง ชายคนนี้ก็มักอ้างเรื่องให้ต้องจ่ายเงินอีกหลายครั้ง จนยอดเงินไปถึง 75,000 บาท ก็เริ่มจ่ายไม่ไหว หลังสอบถามไปยังสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการเข้าค่ายฝึก สมาคมก็ยืนยันว่าไม่ได้จัดกิจกรรมที่ชายคนนี้อ้างมาแต่อย่างใด และเมื่อนำเรื่องนี้ไปคาดคั้น เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเจตนาฉ้อโกงเงินไป และจะทยอยคืนเงินให้ ซึ่งตนก็ได้รับมาบางส่วน เมื่อทวงถามไปก็จะบ่ายเบี่ยง จากนั้นก็เงียบหาย

ขณะที่นายพรรณเชษฐ์ ปัญญาโชคไพศาล นักแสดง บอกว่ารู้จักกับชายคนนี้เพราะเป็นรุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และเห็นว่ามักโพสต์ขายสินค้าอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งช่วงที่มีข่าวว่าจะมีการขายไอโฟน 12 ซึ่งตนกำลังสนใจ จึงสอบถามรุ่นน้องคนนี้ อ้างว่าสามารถสั่งซื้อจากต่างประเทศได้ในราคา 40,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นที่ตนต้องการจึงสั่งจองล่วงหน้าไป แต่ทุกครั้งที่มีการติดตามสินค้าก็มักจะบ่ายเบี่ยง และอ้างติดขัดเงินในบัญชีถูกอายัด ต้องใส่เงินให้ครบยอดที่ธนาคารกำหนดจึงขอยืมเงินเพิ่มซึ่งตนก็ให้ไป แต่จนถึงวันที่โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ออกวางจำหน่ายในประเทศไทย ตนก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือ และมาทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกหลอกขายสินค้าเป็นจำนวนมาก เมื่อทวงถามต้องการเงินคืน ก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่สามารถทำได้ และยังท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดีด้วย

ทั้งนี้ หลังผู้เสียหายนำชื่อชายคนนี้ไปตรวจสอบในโลกออนไลน์ ก็พบประวัติเคยฉ้อโกงมาแล้วหลายคดี และพบมีผู้เสียหายปัจจุบันรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ ซึ่งจากการสอบถามในกลุ่ม ก็พบมีพฤติการณ์หลอกลวงในแบบอื่นๆ อีก เช่น หลอกขายสินค้าแบรนด์เนม แต่ไม่ส่งสินค้าให้ , หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ , หลอกตีสนิทยืมเงินหญิงสาวผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ พบความเสียหายตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลายแสนบาท รวมความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบมีพฤติการณ์บ่ายเบี่ยง ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือญาติ หากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความหรือโพสต์ประจานลงโซเชียลมีเดีย ส่วนเหตุที่ทำให้แต่ละคดีล่าช้าออกไป เสียงเพราะชายคนนี้พยายามคืนเงินบางส่วน เพื่อให้ผู้เสียหายมีความหวังว่าจะได้เงินที่เหลือกลับคืนมา และหากถูกอายัดเงินในบัญชี ก็จะใช้เรื่องนี้ไปกดดันผู้เสียหายคนอื่นๆ ว่า ไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ เพราะเงินถูกอายัด เป็นต้น

อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อนำเรื่องนี้มาเรียนผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *