อาชญากรรม

ผู้เสียหายซื้อรถ ร้องกองปราบฯ ถูกตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ จับรับซื้อของโจรก่อนจ่ายเงินกว่าแสนแลกปล่อยตัว

วันนี้ (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม หรือ บก.ป. ถนนพหลโยธิน นายภูวิชัย น้อยตลุบเลา อายุ 31 ปี ผู้เสียหายในคดีซื้อรถกระบะแล้วโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ กักขังก่อนจะให้จ่ายเงิน 120,000 บาท เพื่อปล่อยตัวไม่ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหา “รับซื้อของโจร” พร้อมทนายความ นำหลักฐานเข้าร้องกองปราบปราม เพื่อขอความเป็นธรรม หลังแจ้งความ สภ.รัตนาธิเบศร์ แล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดย นายภูริชัย เล่าว่า เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีนายหน้าของกลุ่มซื้อขายรถยนต์ที่ตนเองเคยติดต่อไว้ ได้ส่งรูปภาพรถยนต์กระบะมือสองมาให้ดู ซึ่งเป็นยี่ห้อและลักษณะตามที่ตัวเองต้องการ พร้อมกับราคา ในวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา จึงนัดดูรถและตกลงราคากันที่บริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า ย่านงามวงศ์วาน ซึ่งรถคันกล่าวเป็นไปตามรูปภาพที่ได้ส่งมา และมีเอกสารการครบถ้วน และเอกสารโอนลอยจากเจ้าของเรียบร้อย จึงตัดสินใจซื้อโดยโอนเงิน 2 แสน 2 หมื่น ตามราคาที่ตกลงไว้ แต่ในขณะกำลังจะขับออกจากลานจอดรถก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบ สภ.รัตนาธิเบศร์ จำนวน 6 นาย เข้ามาจับกุมโดยบอกว่าตนเองรับซื้อของโจร และคุมตัวมาที่ สน.รัตนาธิเบศร์ พร้อมแจ้งว่ารถคันดังกล่าวเจ้าของมีการแจ้งหายไว้ ซึ่งหากไม่อยากให้ดำเนินคดีในข้อหา รับซื้อของโจรให้นำเงินมาเคลียร์ 120,000 บาท ซึ่งตนเองถูกคุมตัวตั้งแต่เวลา 18:00 – 24:00 นาฬิกา เป็นเวลาหลายชั่วโมง จึงตัดสินใจหาเงินจำนวน 120,000 บาท มาให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อที่เรื่องจะได้จบ ซึ่งหลังจากนั้นรถคันดังกล่าวที่ตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง กลับพบว่ามีการนำมาซื้อขายกันอีก

ด้านทนายความ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความไว้ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่ดูลักษณะผู้กำกับการ สภ. จะปกป้องลูกน้อง และกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้นำผู้เสียหายมาแจ้งความที่กองปราบปรามเพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมองว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นขบวนการที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะจนถึงวันนี้ตำรวจก็ยังไม่ได้มีการจับกุมนายหน้า หรือคนส่งรถมาสอบปากคำ มีเพียงตนเองเท่านั้นที่ถูกจับกุม และเมื่อทวงถามไปยังนายหน้าถึงเงินค่ารถที่ได้จ่ายไปแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ ดูหลักฐานเอกสารต่างๆ ก่อนประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อให้ไปแจ้งความโดยตรง เนื่องจากคดีนี้มีข้าราชการมาเกี่ยวข้องด้วย

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *