อาชญากรรม

ผู้พิพากษาทั่วประเทศ ลงมติ3165 คะแนน ถอดถอน ชำนาญ พ้น ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิ

สำนักงานศาลยุติธรรม” ได้ดำเนินการตรวจนับคะแนนบัตรลงมติถอด-ไม่ถอดถอน “นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์” ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ให้พ้นจากการปฏิบัติหน้า กรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิชั้นฎีกา ที่มีการส่งบัตรให้กับผู้พิพากษาทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ทั่วประเทศ หลังจากนายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 , นายพงษ์ศักดิ์ ตระกูลศิลป์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ,น.ส.มณี สุขผล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นตัวแทนคณะผู้รวบรวมรายชื่อผู้พิพากษาทั้งในศาลชั้นต้น และศาลสูง รวม 1,735 คนเสนอสำนักงานศาลยุติธรรม ด้วยข้อกล่าวหาว่า “นายชำนาญ” ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย คุณธรรมและจริยธรรม หรือการกระทำที่น่าสงสัยว่ากระทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต. ในกรณีที่อ้างถึงการก้าวก่ายแทรกแซงผู้พิพากษาศาลชั้นต้นขณะสืบพยานในบัลลังก์คดีมรดกครอบครัวภรรยาที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา และการแสดงกิริยาไม่เคารพกระบวนพิจารณาของศาล ทั้งแสดงตนเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่าข่มขู่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น

โดย “นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล” โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ต.ค.) สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ดำเนินการตรวจนับคะแนนลงมติตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 43 โดยเริ่มนับคะแนนเวลา 09.24 น. และสิ้นสุดการนับคะแนนเวลา 11.11 น. ซึ่ง “คณะอนุกรรมการตรวจนับคะแนนลงมติเพื่อถอดถอนกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ” ได้รับบัตรลงคะแนนกลับมาจากผู้พิพากษาทั่วไปที่ได้รับบัตรไปลงคะแนน จำนวน 3,548 ใบ จากบัตรลงคะแนนที่ส่งไปทั้งหมด 4,635 ใบ โดยผลปรากฏว่า ผู้พิพากษาใช้สิทธิลงคะแนน ดังนี้ เห็นชอบ ให้ถอดถอน “นายชำนาญ” ออกจากการเป็น ก.ต.ชั้นฎีกา รวมทั้งสิ้น 3,165 คะแนน ซึ่งจำนวนคะแนนเสียงที่ลงมติเห็นชอบให้ถอดถอนนั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของข้าราชการตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ โดยกึ่งหนึ่งเท่ากับ 2,318 คะแนน และส่วนที่ไม่เห็นชอบการถอดถอน มีจำนวน 193 คะแนน ขณะที่การลงคะแนนนั้น มีจำนวนบัตรเสียทั้งสิ้น 190 ใบ

จากผลการลงคะแนนดังกล่าว “นายชำนาญ” ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก.ต.ชั้นฎีกา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 42 นับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันที่นับคะแนนเสร็จสิ้น ตามระเบียบคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ว่าด้วยการเข้าชื่อและการลงมติเพื่อถอดถอนกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. 2544 ข้อ 17 แต่การถูกยื่นถอดถอนให้พ้นจากการได้รับเลือกเป็น ก.ต.ชั้นฎีกาเท่านั้น กรณีจึงเป็นคนละส่วนกันกับการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี ดังนั้นนายชำนาญ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกาต่อไป

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *