พระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร เจ้าคณะภาค 16 17 18 และประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า วันนี้ไม่ได้นัดสื่อมวลชนมาแถลงข่าวกรณีพระเถระผู้ใหญ่ถูกกล่าวหาว่า พัวพันขบวนการทุจริตเงินทอนวัด ตามที่กระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้ เพราะตนเองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และไม่ได้เกี่ยวข้องงบประมาณ
ส่วนการดำเนินคดีกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่จะ ถูกต้องหรือไม่นั้น พระธรรมกิตติเมธี ให้ความเห็นว่า จะต้องดูในระเบียบของสำนักงานพระพุทธศาสนาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไร ซึ่งคงมีช่องทาง ที่ให้อำนาจ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงดำเนินการดังกล่าวไป
ส่วนจะส่งผลให้ พระสงฆ์ กับฆราวาส เกิดความขัดแย้งกันได้หรือไม่นั้น มองด้วยว่า อาจจะเป็นไปได้ เพราะลูกศิษย์ของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่านอาจเกิดความไม่พอใจ และหากเหตุการณ์จะบานปลายและเกิดความรุนแรง ก็คงต้องยอมรับว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่หน้าที่ของทุกคน ก็ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ยังมองอีกว่า วัดสามารถจะนำเงินที่ขออนุมัติงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาใช้ไม่ตรงโครงการที่ขออนุมัติได้ หากนำมาใช้ทำประโยชน์ในการบำรุงศาสนา แต่จะต้องนำมาคืน ซึ่งหากไม่นำมาคืนอาจจะเกิดข้อบกพร่องบ้าง แต่ข้อบกพร่องนั้นไม่ได้หมายความถึงการโกงเพราะเป็นการทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาเหมือนกัน
ส่วนความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในวันข้างหน้าควรจะเป็นอย่างไรนั้น พระธรรมกิตติเมธี มองว่า ศาสนาพุทธควรจะครองโลก เพราะสอนให้คนทำดี รักษาศีล 5 ซึ่งถ้าหากรักษาศีล5 และมีธรรม 5 ด้วยนันก็จะทำให้สังคมสงบสุข
ขณะที่ การประชุมมหาเถรสมาคมในวันนี้ ก็มองว่า ขึ้นอยู่กับข้อมูลของที่ประชุมที่จะเสนอเข้าไป และหากสามารถแก้ไขกฎระเบียบของสำนักพระพุทธศาสนา ก็อยากให้มีการเสนอให้มหาเถรสมาคม ไม่ต้องรับเงิน จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยให้รับเพียงเงินบริจาคเท่านั้น