พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า ฆ่าโหดเศรษฐินีสายบุญ ยัดศพใส่ตู้เย็น โรยปูนซีเมนต์ทับ รถยนต์หรูหายไป เกิดเหตุในพื้นที่ สภ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.เชียงใหม่ ว่า เมื่อ( 27 ต.ค.62 ) เวลา 11.00 น. นายวรพันธ์ จิรเจริญยิ่ง มาแจ้งว่า เป็นพี่ชายของ นางสาววรรณี จิรเจริญยิ่ง ซึ่งมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุ ศรีจอมทอง และได้พักอาศัยที่ตึกแถวเลขที่ 90/3 หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ เมื่อประมาณ 1 ปี ระหว่างอยู่ในพื้นที่จอมทอง นางสาววรรณี ใช้รถยนต์เก๋ง บีเอ็มดับบลิว สีขาว ทะเบียน 9กจ-3769 กทม. เป็นยานพาหนะขับขี่
ต่อมาในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 นางสาววรรณี ได้ส่งข้อความทางไลน์หานางอารียา รัตนเสรี (เพื่อน) ว่าจะไปเวียดนาม แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับ นางสาววรรณี ได้อีก นายวรพันธ์ ทราบเรื่องจากนางอารียา เห็นว่าผิดปกติจึงตรวจสอบที่บ้านของ นางสาววรรณี ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่พบตัว นางสาววรรณี จึงไปตรวจสอบที่บ้านเกิด เหตุ ได้กลิ่นเหม็นเน่าภายในบ้าน
จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ให้ร่วมตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งได้กลิ่นเหม็นออกมาจากตู้เย็น 2 ประตูแนวนอนตั้ง อยู่บนพื้นในห้องครัว ภายในบ้าน จึงแจ้ง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทอง ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บันทึกตรวจที่เกิด และชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบศพเน่า ไม่ทราบเพศ ชื่อและสกุล สภาพสวมใส่เสื้อผ้า ถูกมัดมือ ไขว่หลัง มัดเท้า มัดหัวด้วยเทปกาวพลาสติก มีถุงพลาสติกคุมหัวนอนคว่ำหนเา ขดคู้อยู่ในตู้เย็นปิดทับด้วยผงปูนซีเม็นต์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทองได้ตรวจชันสูตรศพแล้ว จึงได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรโดยละเอียดนิติเวชศาสตร์โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนตัว บุคคลและตรวจเก็บพยานหลักฐานที่ศพต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า โทรศัพท์มือถือและรถยนต์เก๋งของนางสาววรรณี ได้หายไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า นางสาววรรณี อาจถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดฆ่าตาย อันเป็นความผิดฐาน“ฆ่าผู้อื่น“ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันตัวผู้เสียชีวิตให้แน่ชัดต่อไป
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนมาให้สอบสวน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว สิ้นกระแสความในทุกประเด็น ที่มีข้อสงสัย คำถาม หรือเงื่อนงำต่างๆในคดี โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่าง ๆ เป็นสำคัญ ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องสามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยของสังคมได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน
สำหรับประเด็น การฆาตกรรมในครั้งนี้นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง คงต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และแนวทางในการติดตามจับผู้ต้องหานั้น ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันระหว่างฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน ซึ่งในชั้นยังไม่สามารถอาจเปิดเผยข้อมูลได้มากนัก สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูลหรือพบเบาะแสของผู้ที่กระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ปฏิบ้ติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 1599 หรือสถานีตำรวจภูธรจอมทองหมายเลข 053-341-193