พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ขอเปิดเผยกรณีตามที่สื่อได้นำเสนอข่าว “คอนโดฯแห่งหนึ่ง ปฏิเสธไม่ให้ เจ้าหน้าที่สถานฑูตเข้ากักตัว” นั้น ได้รับรายงานจาก สน.ทองหล่อ ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 63 เวลาประมาณ 19.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากคอนโดฯแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 20 เขตคลองเตย กทม. ว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ทูตเอสโตเนีย เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จะขอเข้ามากักตัวที่คอนโดฯ แต่ทางนิติบุคคลของคอนโดไม่ยอมให้เข้าเนื่องจากเกรงความปลอดภัยของลูกบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปที่เกิดเหตุและมีการประสานทาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ,เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ,ผู้อำนวยการเขตคลองเตย และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเจราจาและได้ข้อตกลงว่าคณะทูตประเทศเอสโตเนียจะพาหญิงรายดังกล่าวไป กักกันโรคตามมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาลไทย
ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สนองนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้กำชับและเล็งเห็นถึงความสำคัญในการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) จากบุคคลต่างด้าว ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตราการที่รัฐกำหนด และจะต้องอยู่ในสถานที่ที่รัฐบาลได้จัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ซึ่งกำกับดูแลงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กำชับ กวดขัน หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น สตม. , บช.ตชด. ,น.,ภ.1-9 ในการประสานกับหน่วยร่วมปฏิบัติด้านความมั่นคง เพิ่มความเข้มในการตรวจคัดกรอง บุคคล หรือยานพาหนะ โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือเดินทางจากประเทศอื่นและเข้าพำนักภายในประเทศไทย จะต้องมีการตรวจคัดกรองและอยู่ในสถานที่รัฐบาลจัดหาให้ทุกคน รวมถึงบุคคลที่เข้าทางช่องทาง จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรน และตามแนวช่องทางธรรมชาติ สกัดกั้นบุคคล หรือขบวนการขนแรงงานต่างด้าว ที่จะลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย อย่างเข้มข้น และต่อเนื่อง และกำชับให้สถานีตำรวจในพื้นที่ชั้นใน ร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบคัดกรองแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ ห้างร้านต่างๆ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการกักตัวที่รัฐบาลกำหนด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตามที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามาพำนักที่ประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 ที่รัฐบาลกำหนดไว้