พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม 4 คดี
คดีแรก จับกุมชาวอเมริกันวัย 26 ปี ที่มีหมายจับทางการสหรัฐอเมริกา ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของตัวเอง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เมื่อ 30 สิงหาคม ประเภทวีซ่า คนอยู่ชั่วคราว เป็นนักบวชที่ชุมชนนักบุญแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี ซึ่งตำรวจเชื่อว่า เป็นภัยต่อสังคมและเป็นบุคคลที่ทางการต่างประเทศได้ออกหมายจับ จึงเพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศ
คดีที่ 2 จับกุมนายคิม ชาวเกาหลีใต้ อายุ 30 ปี พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ประแจแหวนข้างปากตาย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ รวมถึงธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ หลายประเทศด้วยกัน หลังรับแจ้งจากเจ้าของโรงแรม ว่ามีบุคคลมีพฤติกรรมลักทรัพย์สิน และตะเวณลักทรัพย์ตาม Hostel ใจกลางกรุงเทพมหานคร 10 แห่ง ตำรวจติดตามสืบสวนจนพบบุคคลต้องสงสัย เข้าพักใน Hostel ย่านจักรวรรดิ เมื่อผู้ต้องหาเช็คอิน จึงเข้าแสดงตัวจับกุม โดยจากการตรวจสอบ พบว่านายคิม เข้ามาประเทศไทยเมื่อ 30 มิถุนายน 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งอยู่เกินเวลาที่กำหนด นาน 3 ปี 26 วัน
ตำรวจเชื่อว่า ระยะเวลา 3 ปี ผู้ต้องหา อาจจะก่อเหตุมากกว่า 10 ครั้งตามที่ได้รับแจ้ง หากนักท่องเที่ยว หรือ โรงแรม เคยมีประวัติผู้เสียหายที่เคยถูกลักทรัพย์ ใน Hostel สามารถเข้าแจ้งความได้ที่ สน. จักรวรรดิ
คดีที่ 3 จับกุม แก้งส์ชาวจีน แกล้งเป็นใบ้ หูหนวก ขอเงินค่ารักษามะเร็งให้ภรรยา หนึ่งในนั้นคือนายตัน อายุ 61 ปี ถูกจับกลุ่มขณะเรียกว่าอะไรขอเงินบุคคลทั่วไป ย่านสุขุมวิท เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนขอตรวจสอบ จากการสอบปากคำภายหลังทราบว่านายตอนนี้ไม่ได้เป็นใบ้หูหนวกแต่อย่างใดและภรรยาก็ไม่ได้ป่วยตามที่กล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนขยายผลต่อ จนจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งค์อีกหลายคน อาศัยโรงแรมย่านสถานีรถไฟหัวลำโพง เข้าตรวจสอบโรงแรมดังเปล่า พบชาวจีนอีกสามคนกำลังนั่งจับกลุ่มดื่มเบียร์ พบเศษก้นบุหรี่จำนวนมากและไพ่หลายสำรับ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าส่วนหนึ่งที่ได้จากการขอทานนำมาเล่นการพนัน และให้การว่ารายได้จากการพนันเฉลี่ยวันละ 2500 บาท
ขอทานกลุ่มนี้มาจากมณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางโดยเครื่องบินไปขอทานในหลายประเทศ เช่น ไทย มาเลเซีย เวียดนาม สลับกันไป โดยนายตัน เข้าประเทศ 6 ครั้ง ไม่ต่อเนื่อง
และคดีที่ 4 จับกุมนายจิเท็นดรา ชาวอินเดีย หลังก่อเหตุกระทำอนาจารหญิงชาวไทยอายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ขณะเข้าพักใน hostel ย่านพญาไท กรุงเทพมหานคร ต่อมาตำรวจตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบ Biometrics และระบบ Pibics สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทำงานและพักอาศัยอยู่ในจังหวัดตรัง ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนภาษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา จึงเข้าจับกุมในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบผู้ต้องหาไม่เคยถูกจับกุมมาก่อนตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไทดำเนินคดีตามกฎหมาย