พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยัน ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ตำรวจนครบาลมีความพร้อมสนับสนุนภารกิจ ในกรณีที่ประชุม ศบค. ออกแนวทางข้อกำหนดยกระดับมาตรการจำกัดการเดินทาง 14 วัน เพื่อตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยโควิด-19
โดยยืนยันว่าปัจจุบันตำรวจมีหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดอยู่ 3-4 หน้าที่ คือ การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดร่วมกับทหารและกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงาน และภารกิจดูแลแคมป์คนงาน โดยตำรวจนครบาล จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานความมั่นคง และสาธารณสุข พร้อมกำชับให้ตำรวจระดับปฏิบัติ คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขส่วนตัว ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ส่วนกรณีตำรวจติดโควิด ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฉีดวัคซีนไปแล้วร้อยละ 80 ส่วนที่ยังไม่ได้ฉีด คือ เคยติดเชื้อและเพิ่งหาย หรือ มีโรคประจำตัว ก็จะมีการดำเนินมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัยครอบครัว ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาด มีตำรวจในสังกัดติดเชื้อโควิด-19 แล้วประมาณ 390 คน ปัจจุบันยังคงติดเชื้อโควิดอยู่ 82 คน มีการกักตัว 107 คน
นอกจากนี้ พลตำรวจโทภัคพงศ์ เปิดเผยถึงกรณี ได้รับรายงานตำรวจสน.พระราชวังติดโรคโควิด-19 จำนวน 7 คน และครอบครัวตำรวจ ติดเชื้ออีก 5 คน ซึ่งหลังจากได้รับรายงานได้สั่งการให้จัดการพื้นที่โดยเปิดให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการ เข้า-ออกด้านข้างสถานีได้เพียงทางเดียว พร้อมทั้งติดตั้งอุโมงค์ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทางเข้าบริเวณนี้ ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังมีคำสั่งแต่งตั้ง พันตำรวจเอกเกียรติคุณ สนธิเณร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รักษาการราชการแทนในตำแหน่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 และในส่วนของ รองผู้กำกับการปราบปราม รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน และรองผู้กำกับการจราจร ให้สารวัตรแต่ละสายงานมารักษาราชการแทน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่