เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลกระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของนายสุวรรณสรรค์ เกกินะ หรือสัน วัย 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในข้อหา มียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงหมายค้น และ หมายจับกับนายสัน ก่อนที่จะเข้าตรวจค้นบ้านพัก
นายสัน อ้างว่า ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่อาสาในพื้นที่ หาข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด และเชื่อตนเองถูกใส่ร้ายจากการทำงานในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้านการหาข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนทรัพย์สินนั้น ได้มาจากการทำอาชีพ ขายกรอบรูปวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นรูปของทางศาสนาอิสลาม และจะขับรถตระเวนขายไปในพื้นที่ภาคใต้ รายได้ต่อวันสูงถึง 10,000-20,000 บาท และยอมรับว่าเคยเสพยาเสพติด แต่ได้เลิกเสพไปหลายปีแล้ว ทั้งนี้ ภายหลังตรวจค้นแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายสัน ขึ้นรถสยบไพรี นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป
ส่วนอีกจุดที่เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้น ในพื้นที่ ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ พบนายพิเชษฐ์ ภารา อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ระหว่างเข้าบ้านนั้น ตำรวจกดดันนายพิเชษฐ์ ด้วยการใช้ยุทธวิธีให้เปิดประตูและเชิญมารดาของนายพิเชษฐ์มาเกลี้ยกล่อม ใช้เวลานานกว่า 20 นาที นายพิเชษฐ์ จึงยอมเปิดประตูออกมา พร้อมชูมือขึ้นยอมจำนน ก่อนที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะอ่านหมายจับเเละเข้าควบคุมตัว
นายพิเชษฐ์ เองก็ปฎิเสธ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนที่ไม่ยอมเปิดประตูบ้านตั้งแต่คราวแรกและขึ้นไปซ่อนตัวบนฝ้าเพดาน เพราะตกใจกลัวว่าจะถูกทำร้าย โดยอ้างว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปทำร้ายร่างกายในคดียาเสพติด ยอมรับว่าเมื่อ 5-6 ปีก่อน เคยทำงานในโรงแรมและเสพยาเสพติด แต่ปัจจุบันทำอาชีพกรีดยางทำสวน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน
โดยการเข้าค้นเป้าหมายสำคัญหลายจุด ในครั้งนี้ มาจากการขยายผล หลังตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์พร้อมยาบ้า จำนวนกว่า36,000เม็ด ไอซ์ 2 กิโลกรัม เมื่อเดือนมิถุนายน โดยครั้งนั้นพบว่านายธาดา มาลากุล เป็นผู้ส่งยาเสพติดล็อตดังกล่าวจากกรุงเทพฯ ไปยังจ.ภูเก็ต ตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่านายธาดายังส่งยาเสพติดมาในพื้นที่จ.กระบี่ด้วย 
สำหรับปฏิบัติการ ยุทธการสยบไพรี กระบี่ร่มเย็น ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสนธิกำลังหลายหน่วยงาน เข้าตรวจค้น18จุดในกระบี่ ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับที่4 ของประเทศไทย และต้องการให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเกรงกลัวและลดบทบาทให้ยาเสพติดในพื้นที่ลดลง และทำให้เป็นเมืองสีขาว ปลอดยาเสพติด
