นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.โชคชัย นำหมายค้นเข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น เลขที่ 15/37 ปากซอยโชคชัย 4 ซอย 14 แขวงและเขตลาดพร้าว หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าอาจจะมีคนถูกกักขังอยู่ภายในอาคาร
นางปวีณาเล่าว่า มีพลเมืองดีเห็นแขนของผู้ชายยื่นออกมาจากช่องประตูเหล็กที่ถูกใส่กุญแจอยู่ด้านนอก บางคนก็จะเห็นหญิงสูงวัยคาดว่าเป็นแม่หรือญาตินำอาหารมาให้ผ่านทางประตู เกรงว่าอาจจะถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี อีกทั้งยังน่าจะเป็นผู้ป่วย หากปล่อยไว้เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงต้องรีบเข้าช่วยเหลือ
ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบชายอายุประมาณ 30-40 ปี นอนอยู่กับพื้น พูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายกับคนเป็นใบ้ มีลักษณะแขนขาลีบเล็กอ่อนแรง สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นผู้ป่วยออทิสติก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลยันฮีเพื่อตรวจร่างกายและเข้ารับการรักษาตามกระบวนการ
ด้านพันตำรวจเอกสุพล ค้ำชู ผู้กำกับการสน.โชคชัย ระบุว่า นอกจากผู้ป่วยแล้ว ยังพบหญิงสูงอายุอีกคนอยู่ภายในบ้าน เบื้องต้นอ้างว่าเป็นแม่ของชายคนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ลูกชายเคยประสบอุบัติเหตุ ทำให้มีอาการป่วย และไม่ได้ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงต้องอยู่แต่ภายในบ้าน อย่างไรก็ตามตำรวจต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ และจะเข้าข่ายการกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือไม่ เพราะภายในบ้านก็ไม่ได้มีลักษณะของการถูกพันธนาการ ทารุณกรรมหรือทำร้ายร่างกายใดๆ
จากการสอบถามเพื่อนบ้านและคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เล่าว่า เห็นชายคนดังกล่าวมีลักษณะพัฒนาการทางสมองช้าตั้งแต่เด็ก และเคยออกมาวิ่งเล่น ทำลายทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านใกล้เคียงหลายครั้ง ทำให้ผู้ปกครองต้องดูแลให้อยู่แต่ภายในบ้านของตนเองมานานหลายสิบปีจนกระทั่งโต แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องในลักษณะขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด ทั้งแม่และลูกก็อยู่กันตามปกติ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พบว่าภายในที่พักพบเศษขยะจำนวนมาก ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะและไม่เหมาะเป็นที่พักอาศัยของผู้ป่วย ดังนั้นหลังจากนี้จะมีการประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าวเข้ามาดูแลต่อไป