#แชร์ให้ผู้ศรัทธาพระพิฆเนศ #บูชาพระพิฆเนศตำรับอาจารย์เชียง
#เทวตานุสติ คือ การใช้สติตามระลึกหรือผูกสติไว้กับเทวดา หรือพระคุณของเทวดา หรือธรรมซึ่งทำให้เป็นเทวดา เช่น ระลึกว่าเทวดานั่นมีอยู่จริง สร้างบุญกุศลอย่างใดส่งผลให้เป็นเทวดานั้นหรือชั้นนั้นๆ เทวดาประกอบด้วยศีลธรรมจึงทำให้เป็นเทวดา
รักชอบศรัทธาเทพเทวาองค์ใด ชั้นภูมิใด ธรรมข้อใดที่ทำให้เป็นเทวดา หรือการเสวยสุขของเทวดาก็ย่อมใช้ธรรมนั่นมาเป็นเครื่องผูกจิตในการตามระลึกเป็นเทวตานุสติได้ อาจารย์เชียงเป็นผู้ที่มีความศรัทธาในองค์พ่อพระพิฆเนศ แต่จะบูชาและพิจารณาถึงคุณเทวลักษณะในทางปรัชญาเพื่อเป็นปัญญาและกุศโลบายในการบำเพ็ญปฏิบัติคุณความดี
#พระพิฆเนศ เป็นโอรสของพระศิวะและพระแม่อุมาปารวตี มีรูปกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง ทุกคนเคารพนับถือท่านในฐานะที่ท่านเป็น “วิฆเนศ” นั่นคือ เจ้า (อิศ) แห่งอุปสรรค (วิฆณ) พระเจ้าแห่งอุปสรรค ที่สามารถปลดปล่อยอุปสรรคได้ และอีกความหมายถึงท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุกศาสตร์สรรพสิ่งหรือเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง
พระพิฆเนศนั้นเป็นเทพที่มีลักษณะโดดเด่นกว่าเทพพระองค์อื่น นอกเหนือจากเรื่องมีพระเศียรเป็นช้างแล้ว นั่นคือ การนิยมการนำศัตรูเอามาเป็นพวก พระคเณศนั้นไม่นิยมที่จะล้างผลาญศัตรูให้ตายไปเหมือนเทพพระองค์อื่น แต่มักจะใช้ปัญญาที่มีอยู่เป็นทุนเดิมในการดำเนินการ เพื่อให้ศัตรูมีโอกาสกลับใจมาเป็นคนดี หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ เมื่อยอมสวามิภักดิ์แล้วก็จะให้เป็นเทพบริวารไล่เรียงกันไป
พระพิฆเนศ มีพระเศียรเป็นช้าง มีพระกรรณกว้างใหญ่ มีงวงยาว แต่ทรงมีร่างกายเป็นมนุษย์ มี ๒ , ๔ , ๖ , ๘ , ๑๐ , ๑๖ , ๓๖ กร แล้วแต่พระภาคที่จะเสด็จมา รูปร่างของพระองค์แสดงถึงสิ่งเป็นมงคลดีเยี่ยม ซึ่งทรงสั่งสอนถึงความดีและความสำเร็จพระคเณศทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความรู้และปัญญายิ่งใหญ่ แต่ละส่วนของท่านให้ความหมายในเชิงปรัชญาได้ดังนี้
พระเศียร – ทรงใช้เศียรอันใหญ่ที่เต็มด้วยปัญญาความรู้ เป็นที่รวมแห่งปัญญาทั้งหมด
พระกรรณ – ทรงใช้รับฟังคำสวดจากพระคัมภีร์และความรู้ในรูปแบบอื่นๆ อันเป็นสิ่งแรกแห่งการศึกษา
งวง – เราได้นำเอาความรู้ต่างๆ ที่ได้รับจากการเลือกพิจารณาระหว่างทวิลักษณะ ความผิด-ถูก ความดี-ความชั่ว อันมีงวงช้างที่ยาวและใหญ่ใช้ชั่งน้ำหนักต่อการกระทำหรือการค้นหาสิ่งที่ดีงามต่างๆ อันปัญญานั้นเกิดขึ้นเพื่อช่วยในการแก้ปัญหาของชีวิตให้หลุดพ้นจากอุปสรรค และพบกับความสำเร็จสมดั่งความมุ่งหมาย
งา – งาข้างเดียวโดยอีกข้างหักนั้น เพื่อแสดงให้รู้ว่าจะต้องอยู่ในเหตุระหว่างความดี-ความชั่ว ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ดีถึงความแตกต่างกัน ดั่งเช่น ความเย็น-ความร้อน การเคารพ-การดูหมิ่นเหยียดหยาม ความซื่อสัตย์-ความคดโกง
หนู – แสดงถึงความปรารถนาของมนุษย์
บ่วงบาศ – ทรงถือโดยทรงลากจูงคนทั้งหลายให้เดินตามรอยพระบาทของพระองค์
ขวาน – เป็นอาวุธทรงใช้ปกป้องความชั่วร้ายและคอยขับไล่อุปสรรคทั้งหลายที่มาก่อกวนต่อบริวารของพระองค์
ขนมโมทกะ – ข้าวสุกผสมน้ำตาลปั้นเป็นลูก เพื่อประทานให้เราเป็นรางวัลต่อการที่เราปฏิบัติตามรอยพระบาทของพระองค์
ท่าจับงาประทานพร – หมายถึงความยิ่งใหญ่แห่งความผาสุกและความสำเร็จให้กับสาวกของพระองค์ เมื่อสละความชั่วแทนความหมายจากงาที่หัก
เมื่อพิจารณาความหมายในทางสัญญะ รูปกายที่อ้วนพีนั้นมีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์ เศียรที่เป็นช้างมีความหมาย หมายถึงผู้มีปัญญามาก ตาที่เล็กคือ สามารถมอง แยกแยะสิ่งถูกผิด หูและจมูกที่ใหญ่หมายถึง มีสัมผัสพิจารณาที่ดีเลิศ พระพิฆเณศวรมี หนู เป็นสหาย (บางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพาหนะ) ซึ่งอาจเปรียบได้กับความคิด ที่พลุ่งพล่าน รวดเร็ว ดังนั้น มนุษย์จึงต้องมีปัญญากำกับเป็นดั่งเจ้านายในใจตน
#ศรัทธา #อาจารย์เชียง #พระพิฆเนศ #เศรษฐีสาธุ