นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ แถลงผลปฏิบัติการ”ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด” ครั้งที่3 ซึ่งเป็นการขยายผลจากการจับกุม นางสาว เขมมิกา ใจปินตา หรือ เจ๊เหมย ตัวกลางในการรับโอนเงินยาเสพติด โดยเข้าตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นราธิวาส สมุทรปราการ และชลบุรี สามารถตรวจยึด อายัดทรัพย์สินได้รวมทั้งหมด กว่า 1,060 ล้านบาท จับกุมเครือข่ายที่ทำหน้าที่ โอนเงิน แลลักลอบขนเฮโรอีก ส่งไปยังมาเลเซีย รวม 5 คน จากที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ ทั้งหมด 10 คน โดยมีพฤติการณืกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่โอนเงิน ผ่านนางสาวเขมิกา เพื่อส่งต่อไปยัง นายหลง เจ้าของแหล่งผลิต ที่อยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดย นายหลง ได้ร่วมกับคนไทย เปิดบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตรา เพื่อฟอกเงินและโอนเงิน จากการค้ายาเสพติด อีกทั้งยังพบว่าเปิดบริษัทถึง 8 แห่งเพื่อบังหน้าในการค้ายา แต่เมื่อตรวจสอบไม่พบการเคลื่อนไหวของการทำธุรกรรมทางการเงิน
นายสมศักดิ์ กำชับให้เร่งขยายผลโดยประสานไปยังทางการมาเลเซียเพื่อจับกุมเครือข่าย ที่เหลือ นอกจากนี้ให้ย้อนรอยสอบสวนไปยังต้นทาง เพื่อจับกุม นายหลง เจ้าของโรงงานผลิต ตัวการใหญ่ ซึ่งขณะนี้ 1 ตุลาคม ถึง 5 กรกฎาคม ป.ป.ส. สามารถยึกทรัพย์สินคดียาเสพติดได้แล้ว กว่า 5,600 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 6,000 ล้านบาท ซึ่งมีเวลาปฏิบัติการอีก 3 เดือนจะจบปีงบประมาณ คาดว่าจะสามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ยัระบุว่า เน้นในการยึดอายัดทรัพย์สินเป็นหลัก เพราะในอดีตที่ผ่านมามีการจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก โดยได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาถึงข้อกฎหมายเพื่อมายึดอายัดทรัพย์ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด