อาชญากรรม

บชน. ยกเลิก 7 ด่านรอยต่อจังหวัด พร้อมปรับภารกิจ ระบุกิจการที่ได้รับผ่อนผัน ต้องปฏิบัติเงื่อนไขอย่างเ

พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการปรับมาตรการของตำรวจ หลังมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีประกาศ ประกาศต่อระยะเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-30 พ.ค. 63 โดยระบุว่า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ได้ยกเลิกการตั้งด่านคัดกรองโรคตามรอยต่อระหว่างจังหวัดกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล จำนวน 7 ด่านแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนำกำลังส่วนนี้ไปเพิ่มจำนวน ให้ด่านเคอร์ฟิวในที่ชุมชน กับชุดสายตรวจที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทหาร และ เจ้าหน้าที่ กทม. ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อตรวจสอบผู้ที่กักกันโรคอยู่ในเคหะสถาน, ตรวจสอบสถานที่ที่ไม่ได้รับการผ่อนผัน ห้ามไม่ให้ลักลอบเปิด, เฝ้าระวังการมั่วสุม ปาร์ตี้ หรือลักลอบเล่นการพนัน ส่วนสถานที่ที่ได้รับการผ่อนผันให้เปิดได้นั้น เจ้าหน้าที่ จะต้องเข้าไปตรวจสอบว่า แต่ละสถานที่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดหรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตาม ตำรวจจะสามารถจับกุมได้ทันทีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้กำชับให้ตำรวจนครบาลมีส่วนร่วมกับกรุงเทพมหานครในการจัดระเบียบผู้ที่มารับสิ่งของบริจาค เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ซึ่งถือเป็นภารกิจใหม่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับเพิ่มเติม

ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังยืนยันว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมา สถิติการก่ออาชญากรรมและประสงค์ต่อทรัพย์ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่กลับลดน้อยลง เพราะมีด่านเคอร์ฟิวและชุดสายตรวจที่มากขึ้น มีการออกตรวจตราอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในยามวิกาลที่ประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งนอกจากจะต้องตรวจตราตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว หน้าที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมก็ยังคงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *