อาชญากรรม

นายพลปราบยาเสพติด ในความทรงจำ

ทุกสิ้นเดือนกันยายน ของทุกปี จะเป็นช่วงสับเปลี่ยน โยกย้ายตำแหน่งข้าราชการ ของทุกหน่วยงาน รวมถึงการเกษียณอายุราชการของผู้ที่มีอายุ 60 ปีด้วย อีกหนึ่งหน่วยงานซึ่งเป็นที่จับตามองของประชาชนส่วนใหญ่ นั่นคือ ข้าราชการตำรวจ ที่ถือว่า มีความใกล้ชิดกับประชาชน ในทุกช่วงวัย และทุกสาขาอาชีพ ที่ล้วนแล้วแต่มีความคุ้นเคยกับตำรวจเป็นอย่างดี

บุคคลหนึ่งที่ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของประชาชนทั่วไป สามารถพบเห็นเขาได้จากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน กับปฏิบัติการขุดรากถอนโคนยาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นภัยร้ายที่เกาะกินสังคมไทย “พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข” ที่ตอนนี้แม้เขาจะกลายเป็นอดีต “ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด” ไปแล้ว แต่ผลงานต่างๆที่ฝากไว้กับหน่วยงานปราบปรมยาเสพติด ในยุคที่เขา ก้าวเข้ามาเป็น “ผู้บัญชาการ” ถือว่าได้ใจคนทั้งประเทศ ที่เขากล้าประกาศกร้าว เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติด วลีเด็ดดวงที่ กึกก้องอยู่ในหูผู้คน ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดง ยันผู้เฒ่าผู้แก่ นั่นคือ “ผมจะทำให้มันจนยิ่งกว่าขอทาน”

นับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 ที่ พลตำรวจโทสมหมาย ก้าวเข้ามารับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ฝากลงานด้านการกวาดล้างยาเสพติด ไว้มากมาย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ในวันสุดท้ายของการทำงานในหน้าที่ นายพลปราบยาเสพติด กล่าวเปิดใจถึงการทำงานตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับความภูมิใจในการทำงานที่ประสบความสำเร็จ สามารถตัดวงจรการเงินซึ่งถือเป็นต้นทางของเครือข่ายยาเสพติด ทลายเครือข่ายขนาดใหญ่จำนวน 13 คดี จับกุมผู้ต้องหา 463 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินได้ 1,472 รายการ รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินกว่า 27,000 ล้านบาท

ด้วยความที่ พล.ต.ท.สมหมาย เป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชา ในหน่วยงาน ตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวมถึงอีกหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมกันปราบปรามยาเสพติด มาตลอดช่วงระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ใน บช.ปส. ในงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการที่จัดขึ้น ณ สโมสรตำรวจ ให้กับ ”นาย” อันเป็นที่รัก เพื่ออำลาชีวิตราชการ โดยในงานเลี้ยงดังกล่าว นอกจากข้าราชการในหน่วยงานสังกัดตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่มาร่วมงานแล้ว ยังมีนายพล ระดับรอง ผบ.ตร. อย่าง พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดจากหลายประเทศ ที่เข้ามาร่วมงานด้วย

บรรยากาศภายในงานเลี้ยงเกษียณ เป็นไปอย่างอบอุ่น มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึก โดยเฉพาะไฮไลท์ของงาน นั่นคือ “การแสดงมุทิตาจิต” จากชุด สยบไพรี ของ บช.ปส. เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ หากย้อนไปเมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นวันที่ พล.ต.ท.สมหมาย เข้ามารับตำแหน่ง ผบช.ปส. และ ต้องมีกองเกียรติยศ มาให้การต้อนรับผู้บัยชาการคนใหม่ แต่ปรากฎว่า ในวันนั้น ชุดสยบไพรี ไม่มีความพร้อมมากนัก และความเป็นระเบียบยังไม่เข้มแข็งเท่าที่ควรในสายตาของ พล.ต.ท.สมหมาย ทำให้ ผูบัญชาการคนใหม่ในขณะนั้น ต้องสั่งซ่อม หัวหน้าชุดสยบไพรี ด้วยการให้ยึดพื้น เพราะต้องการสร้างระเบียบวินัยและความเข้มแข็ง เพื่อให้ชุดสยบไพรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด มีความน่าเกรงขาม เมื่อไปปรากฎตัวตามสถานที่ไหน ผู้ค้า-ผู้เสพ ต้องเกรงกลัว นับจากวันนั้น จนถึงวันนี้ “ชุดสยบไพรี” ของ บช.ปส. ก็ถูกฝึกฝนอย่างเข้มข้นมากขึ้น และกลายเป็นที่กล่าวขานว่า เป็นชุดปฏิบัติการในพื้นที่ ที่น่าเกรงขามติดอันดับ 1 ใน 4 ของประเทศไทย

ในการแสดงมุทิตาจิต ของชุดสยบไพรี หัวหน้าหน่วย ซึ่งเป็นตัวแทนของ ขึ้นกล่าวขอบคุณ พล.ต.ท.สมหมาย และร่วมกันร้องเพลง “ความรักไม่รู้จบ” มอบให้กับนายพลนักปราบยาเสพติด อดีต ผบช.ปส. ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กอดคอกับลูกน้อง จับไมค์แล้ว ร่วมกันร้องเพลงจนจบ ทำเอาบรรยากาศ ในห้องจัดเลี้ยง เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ นอกจากนี้ ยังมีการแสดง จาก อู้ด เป็นต่อ ร่วมกับข้าราชการตำรวจ ในสังกัด บช.ปส. ที่เรียกเสียงฮาจากคนดู รวมถึง การมอบดอกกุหลาบ ให้กับข้าราชการตำรวจ ที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ ด้วย

ท้ายที่สุด อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยเสพติด ได้กล่าวขอบคุณทีมงาน บช.ปส.ทุกคนที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 2 ปี
“ไม่มีพวกเขา ไม่มี บช.ปส.ในวันนี้ พวกเราพร้อมที่จะตอบแทนแผ่นดิน เทิดพระเกียรติในหลวง ยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิต แต่โชคดีที่ตลอดระยะเวลาการทำงานปราบปรามยาเสพติด ไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น ไม่มีสมหมาย บช.ปส. อยู่ได้ แต่ไม่มีพวกเขา สมหมาย ไม่ได้เกิด” เขากล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *