นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัวตามหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่ กกต.แจ้งความให้ดำเนินคดีนายธนาธร ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี2561 มาตรา 151 กรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) ภายหลังได้ย้ายสถานที่จาก สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมวลชนคนเสื้อเหลือง
ทั้งนี้ นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้ตนมารายงานตัวตามหมายเรียกในคดีที่ กกต.แจ้งความไว้ โดยจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ตอนนี้ยังมีกำลังใจดี ไม่ว่าจะเรื่องคดีความต่างๆ หรือการที่มีกลุ่มบุคคลพยายามมาระรานสิทธิเสรีภาพการเดินทางของตน หลังจากนี้ก็จะทำงานอย่างต่อเนื่องและตั้งใจ ไม่หวาดหวั่นสิ่งที่เข้ามาคุกคาม
สำหรับกระแสการทำรัฐประหารนั้น ตนเชื่อว่าไม่ใช่ทางออก เพราะพิสูจน์แล้วว่าแก้ปัญหาไม่ได้ วิกฤตครั้งนี้ ก็เกิดจากการรัฐประหารเดือนกันยายน ปี 2549 หากทุกฝ่ายยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นยังคงมีทางออกที่สันติอยู่ ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับวิธีการนี้
โดย นายธนาธร กล่าวต่อว่า สำหรับการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้(25 พ.ย.) ขอฝากตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐให้ใช้ขันติธรรม รับฟังสิ่งที่นักเรียนนักศึกษาและประชาชนออกมาพูด การเลือกชุมนุมที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพราะข้อเสนอของเขาไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ร่างรัฐธรรทนูญฉบับไอลอว์ที่มีผู้ลงชื่อจำนวนมากกลับถูกตีตกไม่ได้รับพิจารณา แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีเหตุบานปลาย ไม่เชื่อว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมีต้นทุนทางสังคมมากพอจะทำรัฐประหาร ส่วนเรื่องการพิจารณาการนำ ม.112 กลับมาใช้กับผู้เห็นต่างนั้น มองว่าเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ เวลานี้ไม่ใช่เวลามาไล่จับกุมกัน หากยังเชื่อว่าตนอยู่เบื้องหลังก็เริ่มต้นผิดแล้ว นี่คือเสียงของยุคสมัย สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือเปิดใจให้กว้างและยอมรับความจริงของสังคมอย่างมีวุฒิภาวะ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ตนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครคณะก้าวหน้าในการเมืองท้องถิ่น หากมีโอกาสเข้าร่วมชุมนุมก็เข้าอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา
นายธนาธร กล่าวถึงกรณีศาลยกคำร้อง ส.ส.พรรครัฐบาล ถือหุ้นสื่อ โดยเฉพาะกรณีของ น.ส.ภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่ชี้แจงว่าหุ้นส่วนบริษัทที่ถืออยู่นั้นได้ปิดกิจการไปแล้ว ขอให้ดูเจตนา ทั้งที่ของตนก็ปิดไปแล้วและไม่คิดรื้อฟื้น ศาลยังบอกว่า น.ส.ภาดา ไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อเมื่อเจ้าตัวแสดงเจตนาแล้วก็ไม่เป็นสื่อ ของตนก็เช่นกันไม่ว่าจะกิจการไหน ขอให้ติดตามการทำงานขององค์กรอิสระที่มาจากการรัฐประหารและอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน หากเปิดใจรับฟังจะเห็นว่าหลักฐานการขายหุ้นของตนทุกอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย แม้แต่ในชั้นศาลก็ไม่มีหลักฐานใดมาหักล้างได้เลย
ทั้งนี้ ภายหลังนายธนาธร ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น คณะก้าวหน้า จ.นนทบุรี ได้นำกล่องกระดาษใส่ลูกโป่งสีส้มและนำเค้กวันเกิดสีส้มมามอบให้กำลังใจ โดยนายธนาธร กล่าวขอบคุณพร้อมยกมือไหว้