พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน นำสำนวนสั่งฟ้องคดีแฟลชม็อบที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมพวกรวม 4 คน มาส่งฟ้งต่ออัยการศาลแขวงปทุวัน โดยนายกกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ระบุว่า พงส.มีความเห็น สั่งฟ้องทั้ง 5 ข้อหาประกอบด้วย 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ และ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5. ชุมนุมในรัศมีใกล้เขตพระราชฐาน 150 เมตร
โดยจะยืนยันต่อสู้ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการพบปะประชาชนไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมือง ส่วนการใช้เครื่องขยายเสียงก็เปรียบเสมือนกรณีนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พบประชาชน
ทั้งนี้หลังอัยการสำนวนจากพนักงานสอบสวน จะมีเวลาพิจารณาสำนวนเพื่อมีความเห็นทางคดีสั่งฟ้อง ไม่ฟ้อง หรือสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มในประด็นที่ยังสงสัยภายใน7วัน หากสั่งฟ้องจะนัดผู้ต้องมาส่งต่อศาลพร้อมสำนวนคดี
สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 8 คน วันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวส่งฟ้องอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง5 ศาลแขวงปทุมวัน 4คน คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรคอนาคตใหม่ นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม ,นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือแพนกวิน ,และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำวิ่งไล่ลุง
สำหรับ น.ส.ณัฏฐา มหัธนา หรือโบว์ พนักงานสอบสวนนัดส่งฟ้องช่วงบ่าย ส่วนอีก3คน ประกอบด้วย นางสาวพรรณิการ์ วานิช นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคอนาคตใหม่ ที่ยังคงใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองการเป็นส.ส. ยังไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ และติดภารกิจการประชุมสภา
นายธนาธร กล่าวภายหลัง ถูกพนักงานสอบสวนส่งฟ้องต่ออัยการ ว่ายืนยันจะเดินหน้าลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในลักษณะนี้เหมือนเดิม โดยไม่เบื่อที่จะขึ้นศาลหรือถูกดำเนินคดี เพราะสิ่งที่ทำอยู่เป็นเสรีภาพ และเป็นดำเนินการคู่ขนานกับการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในรัฐสภา เบื้องต้นอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้เวลา 9:00 น.
