พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยผลการปราบปรามเครือข่ายโรแมนซ์สแกม 2 เครือข่าย โดยคดีแรก ตำรวจจับผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย 1 ราย สร้างเฟสบุ๊คปลอม หลอกผู้เสียหายว่าจะส่งพัสดุให้ แต่ติดปัญหา จึงให้โอนเงินกว่า 1 แสนบาทเพื่อนำพัสดุออกมา ต่อมาผู้เสียหายรู้ตัว จึงแจ้งตำรวจเข้าจับกุมได้บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 24 ซึ่งจากการตรวจค้นพบธนบัตรดอลลาร์ปลอมจำนวนมาก จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารับธนบัตรปลอมมาจากเพื่อนชาวแคเมอรูน ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ส่วนอีกคดีตำรวจจับชาวไนจีเรีย 1 ราย และหญิงไทยอีก 1 ราย หลอกผู้เสียหายในลักษณะเดียวกัน มีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
โดย พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ระบุว่า ปัจจุบัน การกระทำผิดของเครือข่ายโรแมนซ์สแกมลดลงอย่างเห็นได้ชัด เกิดเหตุเดือนละไม่ถึง 10 ราย จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งเหตุเดือนละ 20-30 ราย ขณะที่ การกระทำผิดของเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ แทบจะเป็นศูนย์แล้ว ซึ่งเกิดจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งจากนี้ ตำรวจท่องเที่ยว จะตรวจสอบกลุ่มชาวไนจีเรียที่เดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 1,400 ราย รวมถึงชาวแคเมรูน ว่าเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบเข้ามากระทำผิดในประเทศไทย จะจับกุมผลักดันออกนอกประเทศ และขึ้นแบล็กลิสต่อไป พร้อมแนะนำประชาชน การป้องกันที่ดีที่สุด คือการไม่โอนเงินไปให้กลุ่มคนร้าย
