พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ (30 เม.ย. 63) ฝ่ายความมั่นคง จะปรับแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย หลังมีการขยายเวลาการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยตำรวจจะปรับยุทธวิธีเป็นเชิงรุกมากขึ้น จากการลดด่านคัดกรองรอยต่อระหว่างจังหวัด ไปเพิ่มกำลังสายตรวจร่วม เพื่อเข้าไปดำเนินการ 4 แนวทางหลัก คือ การสุ่มตรวจผู้ที่กักตัวอยู่บ้าน หรือ Home quarantine โดยสั่งการให้รองผู้บังคับการทั่วประเทศ ทำแผนปฏิบัติงานเสนอต่อรองผบ.ตร. ทุกวัน เพื่อให้มีความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน, การตรวจสอบกลุ่มสถานประกอบการและกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนปรน ว่ามีการปฏิบัติตามเงื่อนไขและแนวทางที่กำหนดหรือไม่ โดยช่วงแรกจะมุ่งเน้นการเข้าไปแนะนำ ตักเตือน นอกจากนี้ได้กำชับไปยังตำรวจทุกนาย ไม่ให้ใช้ช่วงโอกาสนี้เรียกรับผลประโยชน์ หรือ ซ้ำเติมประชาชนเด็ดขาด
นอกจากนี้สำหรับมาตรการป้องกันผู้ลักลอบเดินทางเข้ามาภายในประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ได้สั่งกำชับให้ ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจในพื้นที่ ทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ในการเพิ่มความเข้มการตรวจตรา เพื่อลดจำนวนผู้เดินทางที่ไม่ผ่านการคัดกรองโรค โดยเฉพาะกลุ่มคนแรงงานต่างด้าว
โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการตั้งด่านเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ยังมีอยู่เช่นเดิม ถึงแม้จะพบแนวโน้มผู้กระทำผิดลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พบเพียงกว่า 500 ราย แต่ผู้กระทำผิดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวกว่าร้อยละ 80 ส่วนใหญ่ เป็นการมั่วสุม ขับขี่รถเล่น หรือเมาสุรา ซึ่งยังคงต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป