เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ คุมตัวนายธีรพล ปิ่นอมร หรือปุ๊ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงครอบครัวของภรรยาเสียชีวิตรวม 5 ศพ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยใช้พื้นที่ด้านหลังของกองบังคับการเป็นสถานที่การทำแผนแทน เพราะกังวลว่าหากไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุจริง นายปุ๊ อาจจะถูกจากชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจมาจำลองการทำแผน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ แทน
ทั้งนี้ ตลอดการทำแผน นายปุ๊ ได้สารภาพทุกข้อกล่าวหา นำชี้จุดต่างและอธิบายการก่อเหตุทุกประการ ซึ่งการจำลองเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่นายปุ๊ มีปากเสียงกับภรรยา และพ่อตาที่โรงจอดรถ เรื่องทรัพย์สินที่ทุ่มเทให้ โดยมีการขอให้พ่อตาโอนรถคืนให้ แต่ภรรยา และพ่อตาบอกว่าให้ไปฟ้องร้องเอา พร้อมทั้งท้าทายให้ยิงตนเองเลย นายปุ๊จึงได้ชักอาวุธปืนยิงพ่อตา ก่อนจะยิงภรรยา และไล่ยิงน้องเมีย กับคู่เขยได้รับบาดเจ็บ ขณะที่อีกจุดหนึ่ง เป็นการจำลองเป็นบ้านพักของแม่ยาย ซึ่งนายปุ๊ขับรถออกจากบ้านหลังแรกไปบ้านหลังที่ 2 เมื่อไปถึงได้เข้าไปยิงแม่ยาย และพี่สาวฝาแฝดของแม่ยายที่กำลังนั่งทานข้าวด้วยกัน ก่อนจะออกมาพบพี่สาวอีกคนหนึ่งของแม่ยายที่อยู่หน้าบ้าน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปที่จังหวัดพิษณุโลก ก่อนจะทิ้งรถไว้ โรงแรมแห่งหนึ่ง และยืมรถจักรยานยนต์แม่บ้านขับออกไปทิ้งไว้หน้าโรงลิเก และโบกรถกระบะที่ขับผ่านขอติดรถเข้ากรุงเทพฯ โดยให้ค่าน้ำมัน 1,000 บาท แต่ระหว่างทางนายปุ๊ได้ขอลงที่จังหวัดพิจิตร ก่อนหลบหนีไปยังจังหวัดระนองและถูกจับกุม
ในการจำลองเหตุการณ์มีพลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมสังเกตุการณ์ด้วย
หลังการจำลองเหตุการณ์ ตำรวจได้แจ้ง 5 ข้อหากับนายปุ๊ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง , พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการฝากขังต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ทันที
พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจหลายหน่วยงานสนธิกำลัง ร่วมกันติดตามจับกุมตัวนายปุ๊ได้ พร้อมกับอ้างว่า ที่ก่อเหตุ เกิดจากความแค้นและบันดาลโทสะ เพราะที่ผ่านมา มีการทะเลาะกันมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาขอคืนจากครอบครัวผู้ตาย ส่วนกระแสข่าวเรื่องเงิน 30 ล้านของผู้ต้องหา นั้น จะทำการสืบสวนขยายผลต่อไปว่า มีจริงหรือไม่ และได้เงินมาจากไหน เพราะจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหา ถูกฟ้องร้องคดีฉ้อโกงเงิน ในพื้นที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ด้วย