นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ในการติดตามขยายผลเพื่อจับกุมขบวนการค้าไม้ข้ามชาติเครือข่ายมู่หลาน ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ดำเนินการค้าไม้ข้ามชาติมานาน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายในหลายพื้นที่
กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารจับกุมนายเฉิน หง หม่า นายทุนชาวจีน , นายมินซอ , นายเชดทู, นายละเมว คนงานชาวเมียนมา โดยทั้งหมดถูกจับกุมได้ภายในโกดังที่แพรกษา รวมถึงได้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีคำสั่งไล่ออกพร้อมแจ้งความดำเนินคดีฐานปล่อยปละละเลยให้มีการตัดไม้ ขณะเดียวกันได้ออกหมายจับน.ส.ชลิดา สุพันธมาส หรือมู่หลาน ที่อยู่ระหว่างหลบหนีไปต่างประเทศ โดยค่าดว่าภายในสิ้นปีนี้ทางตำรวจได้เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 15 ราย
รองอธิบดีกรมป่าไม้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางชุดปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าทุกคนได้ทำงานอย่างหนัก และเต็มที่เพื่อจับกุมผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษ ซึ่งสามารถดูผลงานทั้งหมดได้จากกราฟสถิติพื้นที่ป่าไม้ของทั้งประเทศ พบว่าตั้งแต่พ.ศ.2558 ถึงปัจจุบัน อัตราส่วนการถูกยึดพื้นที่ป่าลดลงเหลือเฉลี่ยหลักหมื่นไร่ต่อปี แต่เจ้าหน้าที่สามารถยึดทวงคืนมาได้เฉลี่ยปีละ150,000 ไร่ โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นนิติวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถบิดเบือนได้
แต่กลับพบว่ามีกลุ่มคนไม่หวังดีทำหนังสือสารสนเทศ นำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อโจมตีชุดปฏิบัติการ กล่าวหาว่ามีการรับสินบนจากขบวนการมู่หลานจำนวนหลายล้านบาท รวมถึงได้พาดพิงไปยังข้าราชการระดับสูง จนส่งผลกระทบต่อกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างสุจริตและกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล
ในเบื้องต้นทางกรมป่าไม้ ได้แจ้งความกับทางกองปราบปราม เพื่อให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ทำสารสนเทศ พาดพิงการทำงานและกระทบต่อเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง รวมถึงตรวจคอลัมน์นิสต์ที่นำเสนอข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกลับกลุ่มบุคคลเหล่านี้หรือไม่
