ตำรวจกองกำกับ 2 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม น.ส.วีรญา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 328/2562 ลง 21 พ.ค.62 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2553 ต่อเนื่องถึงปี 2556 ผู้ต้องหาประกอบอาชีพเป็นโบรกเกอร์ (Broker) ได้ชักชวนกลุ่มผู้เสียหาย 17 คน ร่วมลงทุนในโครงการคอนโดหรืออาคารชุดพักอาศัย โดยผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ดูแลและรับจ้างดูแลโครงการคอนโดต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีโควตาซื้อขายห้องพักของบริษัทฯ ทุกโครงการ จำนวน 250 ยูนิต จึงชักชวนกลุ่มผู้เสียหายมาลงทุนทำสัญญาซื้อขายเพื่อเก็งกำไร โดยเฉลี่ยจะได้กำไรห้องละ 100,000 บาท
ทั้งนี้ มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนไปทั้งหมด 11 โครงการ โดยผู้เสียหายจะต้องจ่ายเงินลงทุนให้ผู้ต้องหาประมาณห้องละ 497,300 บาท ซึ่งในการลงทุนช่วงแรกมีผลกำไรจากการลงทุนจริง จึงทำให้กลุ่มผู้เสียหายเกิดความไว้ใจ ลงทุนซื้อขายเพิ่มกว่า 129 ห้อง รวมเป็นเงิน 65,000,000 บาท แต่หลังจากที่ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มไป ผู้ต้องหากลับไม่จ่ายเงินตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ เมื่อผู้เสียหายติดตามทวงถามก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั่งผู้ต้องหารับสารภาพกับผู้เสียหายว่าไม่ได้เอาเงินไปลงทุนที่ใดเลย แต่เอาเงินของผู้เสียหายมาจ่ายเป็นผลกำไรตามที่กล่าวอ้าง กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้เร่งรัดลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 65 ล้านบาท หากไม่เร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีเกรงว่าจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นอื่นอีก
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะฉ้อโกงหลายคดี หลายท้องที่ หลากหลายวิธีการ อาทิ เมื่อปี 2558 ผู้ต้องหาซึ่งอ้างตัวเป็นผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ได้เสนอแผนการขยายบริษัทฯ ไปยังต่างประเทศให้กับทางบริษัทฯ ผู้เสียหาย โดยได้ขอเบิกเงินจำนวน 14,912148 บาท กับทางบริษัทฯ ผู้เสียหาย เพื่อไปก่อตั้งสถานที่ให้บริการหรือการเซอร์วิสลูกค้า แต่ไม่มีการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทตามที่กล่าวอ้าง , เมื่อปี 2561 ผู้ต้องหาได้หลอกหลวงให้ผู้เสียหายที่เป็นเพื่อนสนิทไปร่วมลงทุนซื้อนาฬิกาหรู (Patek Philippe) จากต่างประเทศเพื่อมาขายเก็งกำไร แต่ปรากฏภายหลังว่าไม่มีการซื้อขายลงทุนจริง มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000,000 บาท จากการสอบถาม น.ส.วีรญาฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าเงินที่ได้ส่วนใหญ่หมดไปกับการพนันออนไลน์