นางอังคนา เมาส์ฮัมเมอร์ อายุ 61 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ลงวันที่ 3 ก.ค. 2549 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้ ที่บริเวณบ้านพักในหมู่ที่ 19 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
จากกรณี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2549 เวลาประมาณ 01.30 น. ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงนายวินเฟส เมาส์แฮมเมอร์ ชาวเยอรมัน ถึงแก่ความตาย ภายในรถยนต์กระบะ เหตุเกิดในพื้นที่บนถนนพหลโยธิน หมู่ที่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จว.นครสวรรค์ ต่อมา ได้มีนางอังคนา ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายในขณะนั้น ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนเองพร้อมด้วยนายวินเฟส สามี และนายสุรชัย แสงสว่าง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของ นางอังคนาฯ ได้ไปร่วมรับประทานอาหารกัน หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ตนเองกับสามีได้แยกกลับ ส่วนนายสุรชัย ได้ขับรถ จยย.แยกไปอีกทางหนึ่ง เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ นายวินเฟสฯ ได้จอดรถลงไปปัสสาวะข้างทาง แล้วกลับขึ้นมานั่งบนรถยนต์ จากนั้น ได้มีคนร้าย ขับขี่ รถ จยย. เข้ามาใช้อาวุธปืนยิงนายวินเฟสฯ จนถึงแก่ความตาย ต่อมา ทางการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ทราบว่า นางอังคนาฯ และนายสุรชัยฯ ได้ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสองไว้แล้ว
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ทราบว่า นางอังคณา ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ อ.พนมทวน จว.กาญจนบุรี ประกอบอาชีพขายโรตี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม สอบถามผู้ต้องให้การปฏิเสธ แต่ตนเองทราบว่ามีหมายจับ จึงได้หลบหนีมาเป็นเวลา 12 ปี โดยหนีไปอยู่ตามจังหวัดต่างๆและประกอบอาชีพขายโรตีตลอดมาจนถูกตำรวจกองปราบจับกุมตัว ส่วนนายสุรชัย ยังอยู่ระหว่างหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำตัวผู้ต้องหา ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป