ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายไพรวงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ลง วันที่ 9 มิ.ย.2563 ข้อหา เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและยักยอกทรัพย์” รวม 5 หมายจับ โดยจับกุม ได้บริเวณริมถนนอู่ทอง ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ ด้วยเมื่อประมาณวันที่ 4 ก.ย.62 นายไพรวงค์ฯ ซึ่งมีอาชีพเป็นหัวหน้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่ลูกน้องมีต่อตัวผู้ต้องหา รับฝากบัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัสกดเงินของลูกน้องทั้งหมด 5 คน ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มซึ่งอยู่ข้างหน้าบริษัท เพราะเนื่องจากลูกน้องทั้ง 5 คน ไม่สามารถออกไปกดเงินในเวลาทำงานได้ และยังเห็นว่านายไพร์วงค์ฯ เป็นหัวหน้าสามารถเข้าออกไปไหนมาไหนได้ตลอด แต่หลังจากที่นายไพรวงค์ฯออกไปกดเงินแล้วนั้น ผู้เสียหายก็ไม่สามารถติดต่อกับนายไพรวงค์ฯได้อีก จนกระทั่งมาตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร พบว่าถูกถอนไปรายละ 20,000 – 30,000 บาท รวมค่าเสียหายทั้ง 5 คน กว่า 1 แสนบาท ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
จนกระทั่ง วันที่ 30 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายไพรวงค์ฯ หลบหนีมาพักอาศัยบริเวณพื้นที่ ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามสืบสวนจับกุมได้ในที่สุด
จากการสอบถามนายไพรวงค์ฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าเกิดจากความโลภและติดการพนันจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นและอยากฝากขอโทษลูกน้องทั้ง 5 คน ที่ตนเอาเงินไป และจากนี้จะขอทำงานเก็บเงินชดใช้ค่าเสียหายและขอยอมรับผิด ทั้งหมด