นายพลากร ปลื้มพันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาข้อหา “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ” ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวได้ หลังร่วมกันกับพวกรวมจำนวน 3 คน ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ110 จำนวน 2 คัน บริเวณลานจอดรถในย่านพักอาศัยของหอพักและหมู่บ้านในพื้นที่ สภ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก่อนที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่ลักกลับมาเพื่อแยกชิ้นส่วนขาย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบและพบว่าเป็นรถที่ถูกลักมา จึงถูกจับกุมตัวนำส่ง สภ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมานายพลากรฯได้ยื่นประกันตัวในชั้นศาลและหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาล ซึ่งศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว
โดยนาย พลากร ยัง ได้มามาร่วมกันกับเพื่อนร่วมแก๊งค์ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์อีกครั้งในพื้นที่อำเภอบางกรวย จว.นนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถจักรยานยนต์คืนกลับมาได้และรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ขอออกหมายจับนายพลากรฯเพิ่มอีก 1 หมาย ใน ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษณ์ จว.ศรีสะเกษ จึงติดตามไปจับกุมตัวนายพลากรฯ ไว้ได้ สอบสวน นายพลากรฯ ให้การยอมรับว่าเลือกที่จะลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110 เนื่องจากเป็นรถที่ง่ายต่อการโจรกรรมและนายพลากร มีความชำนาญกับรถชนิดนี้เป็นพิเศษ โดยเมื่อลักรถมาได้แล้ว จะนำมาแยกชิ้นส่วนอะไหล่ ส่งขายผ่านเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า “พลากร ปลื้มพันธ์” โดยเมื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาแล้ว พบว่า ยังเคยกระทำผิด โดยจัด สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถจักรยานยนต์ในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกจำนวนหลายครั้ง