พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงจับกุมนายสุขธรรม หรือ “เฮียกุ่ย รัชดา” อายุ 70 ปี นายธรรมยุทธ์ หรือยอด หรือ “อาจารย์ยอด” อายุ 60 ปี เจ้าของศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน และนายไตรเทพ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 12 ต.ค.2563 ในข้อหา ปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อให้ผู้อื่นหลวงเชื่อว่าเป็นเอกสารจดหมายเหตุที่แท้จริง , ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง และข้อหาอื่น โดยจับกุมนายสุขธรรมได้ที่ หน้าบ้านพัก ซอยรัชประชา 4 เขตจตุจักร จับกุมนายธรรมยุทธ์ ได้ที่ บริเวณหน้าอาคารจัดแสดง ศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจับกุมนายไตรเทพ ได้ที่บ้านพัก เขตดอนเมือง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายธรรมยุทธ์ หรือยอด ได้จัดสร้างศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ขึ้นที่ จ.สงขลา มีการจัดแสดงโชว์สมบัติมีค่าและวัตถุโบราณ อาทิ พระสมเด็จพุฒาจารย์โตกว่า 5 แสนองค์ แม่พิมพ์รวมถึงบล็อกทองคำต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก อ้างว่า ทั้งหมดเป็นของหลวงวิจารณ์เจียรนัย บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงยังมีการนำวัตถุโบราณจำพวกหยก หุ่น เสื้อผ้าโบราณและของมีค่าอื่นๆจากประเทศจีนที่อ้างว่าอยู่ในสมัยราชวงศ์ชิง ซูสีไทเฮา และ ปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายจีนแผ่นดินใหญ่ มาจัดแสดงโชว์ร่วมอีกด้วย
นายธรรมยุทธ์ ยังอ้างอีกว่า พระสมเด็จและบล็อกแม่พิมพ์ต่างๆนั้นได้เป็นมรดกตกถอดมาจากบรรพบุรุษ คือ หลวงวิจารณ์เจียรนัย เพราะตนมีศักดิ์ เป็นเหลนรุ่นที่ 6 สิ่งของมีค่าเหล่านี้ที่ถูกเก็บไว้นานกว่า 144 ปี
นอกจากนี้ นายธรรมยุทธ์ ยังได้ร่วมกับ นายสุขธรรม หรือ “เฮียกุ่ย รัชดา” เซียนพระชื่อดัง และ นายไตรเทพ จัดทำคลิปวีดีโอลงสื่อออนไลน์ ประกาศแจกพระสมเด็จ ให้กับประชาชนชนทั่วไปฟรี 2 แสนองค์ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินค่ากรอบและสร้อยคอคล้องพระคนละ 1,000 บาท โดยนำใบตรวจอายุคาร์บอเนตจากการตรวจสอบมวลสาร ของสถาบันนิวเคลียร์ที่ทำปลอมขึ้นมาแสดงโชว์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้หลงเชื่อเช่าพระสมเด็จดังกล่าวจำนวนนับหมื่นราย
และพบว่า นายแพทย์ท่านหนึ่ง มาติดต่อขอเช่าพระในราคา 1,800,000 บาท แต่เมื่อได้มาแล้วนำไปให้เซียนพระและสถาบันต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องตรวจสอบ ปรากฎว่าเป็นของปลอม ผู้เสียหายและกรมศิลปากร จึงเข้าแจ้งความต่อกองปราบฯ จนมีการจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การภาคเสธ โดย นายธรรมยุทธ์ อ้างว่า ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงเอาเงินจากประชาชน เพราะตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นพระปลอม เพราะเป็นมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ
