พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนกับเจ้าของโรงแรมและผู้ที่ใช้สิทธิ์เข้าข่ายทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ตำรวจควบคุมตัวมาจากจังหวัดชัยภูมิและภูเก็ตจำนวน 49 คน ในข้อกล่าวหา ในความผิดร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีผู้ต้องหาบางคน ยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือประมาณ 17 คน อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และรอหลักทรัพย์เพื่อยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนขั้นตอนจากนี้ ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเมื่อสำนวนแล้วเสร็จ จะนัดตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนคดีเพื่อส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ
ทั้งนี้ ยอมรับว่า มีเป้าหมายที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเข้าตรวจค้นอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ ที่พบการกระทำลักษณะคล้ายกันแต่ยืนยันว่ายังไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มถูกจับกุม นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด พร้อมอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 100 บัญชีจากผู้กระทำผิดในจังหวัด
โดยตำรวจ มีข้อมูลผู้ที่เข้าข่ายจงใจร่วมใช้สิทธิ์ในลักษณะทุจริต อีกกว่า 9,000 คนทั่วประเทศ และเตรียมเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
