30 กันยายน 2562 เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของข้าราชการที่รอวันเกษียณอายุ เฉกเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล” หรือ “ท่านศรีฯ” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนดัง ที่ยังคงทำงานวันสุดท้าย กับการนำกำลังบุกจับ ผู้ที่บุกรุกผืนป่า เหมืองเถื่อน ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผลงานชิ้นสุดท้าย ก่อนอำลาวงการข้าราชการตำรวจ
หากพูดถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในมุมมองของนักข่าว สายตำรวจ ก็คงจะหนีไม่พ้นกับผลงานที่โดดเด่น และวลีเด็ดที่มักจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่เป็นประจำ กับถ้อยคำที่ว่า “มันอยู่ในสำนวน” หรือ “ทำให้สิ้นกระแสความ ว่ากันไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง
หากนึกถึงบทบาทหน้าที่ของ อดีต รอง ผบ.ตร. ท่านนี้ มักจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีสำคัญๆที่เกี่ยวกับคดีความมั่นคง การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ไม่เว้นแม้แต่การแก้ไขปัญหาการจราจรในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่หลายคดีที่เป็นเป็นที่จับตา โดยเฉพาะเรื่องอ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนในสังคมก็ทำให้เกิดกระแส ติดแฮชแท็ก #เราไม่เอาศรีวราห์ จากคดีล่าเสือดำของ นายเปรมชัย กรรณสูตร หรือ เจ้าสัวเปรมชัย บิ๊กอิตาเลียนไทย ที่ ปรากฎภาพ พล.ต.อ.ศรีวราห์ “ยกมือไหว้ “เจ้าสั่วเปรมชัย” ด้วยท่าทีเหมือนจะเกรงใจผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ภาพถูกแคปไปเผยแพร่ในโลกโชเชียลมิเดีย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนจะมีการเปิดคลิปฉบับเต็มและพบว่า เป็นเพียงการรับไหว้เจ้าสั่วเปรมชัย ในฐานะที่อายุมากกว่าเท่านั้น ร้อนๆหนาวๆอีกเรื่องที่กลายเป็นกระแส ดร่าม่าไม่แพ้กัน กับคดี13หมู่ป่าอเคเดมี่ ติดถ้ำหลวงงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จว.เชียงราย ในระหว่างที่หน่วยงานต่างๆ ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิต ให้ออกมาให้เร็ว แต่เมื่อท่านศรีฯลงพื้นที่ไปถามหาใบอนุญาตการบินโดรนของทีมสำรวจถ้ำก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก จนท่านศรีฯต้องขอเคลียร์กับสื่อมวลชน ว่า เป็นเพียงการพูดหยอกล้อกับผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น
นี่เป็นเพียงไม่กี่คดีที่ท่านศรีฯถูกสังคมจับตามอง ยังไม่นับคดีการเมืองสำคัญๆทั้งการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม และคดีระเบิด หลายคดีก็สามารถคลี่คลายและจับกุมผู้ต้องหาได้ และท่านศรีฯคนนี้ ถือเป็นบิ๊กสีกา ที่เป็นแคตดิเดทเก้าอี้” ผบ.ตร.”ตีคู่มากับ “บิ๊กแปะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ถึงขนาดมีกระแสข่าวลือถึงการเปลี่ยนตัว “ผบ.ตร.”หากมีอุบัติเหตุให้”บิ๊กแปะ”ไปดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง แต่ดูเหมือนว่า ตำแหน่ง ผบ.ตร. ของ บิ๊กแป๊ะ ยังคงเหนี่ยวแหน่น และวันนี้ เมื่อท่านศรีฯเดินทางมาถึงวันที่ต้องเกษียณอายุราชการ ตำแหน่งสูงสุดในเส้นทางสีกากีของ จึงหยุดอยู่ที่ รองผบ.ตร.หรือนามเรียกขาน”พิทักษ์3″เท่านั้น
สำหรับประวัติเส้นทางสีกากีของ พล.ต.อ.ศรีวราห์” เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2502 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีรัฐประศาสนบัณฑิตจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 35 (นรต.35) เพื่อนร่วมรุ่น ที่มีชื่อเสียง อาทิ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รับตำแหน่งแรกเป็น รองสารวัตรทางหลวง สภ ประตูน้ำพระอินทร์ ก่อนเป็นสารวัตรที่กองตำรวจป่าไม้ ,ผู้กำกับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ,ผู้บังคับการตำรวจสื่อสาร, ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือ ปทศ.(ตำรวจป่าไม้) ,ผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191, ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กระทั่งได้ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.(ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ)ที่จะเกษียณอายุราชการตำรวจ และสุดท้ายเพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็น”นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ”
