นายสุวรรณ พรชัย ตัวแทนพร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายจำนวนกว่า 40 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือ ขอความเป็นธรรม ต่ออัยการสูงสุด โดยมี นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับมอบหนังสือ หลังทั้งหมดถูกหลอกให้ร่วมลงทุนในการซื้อรถยนต์จากมิจฉาชีพ ซึ่งอ้างว่าจะให้กำไรจากการขายรถยนต์หลากหลายรุ่น ลักษณะเป็นแชร์รถยนต์ ทำให้ได้รับความเสียหายรวมมูลค่ากว่าพันล้านบาท ด้านนายสุวรรณ ตัวแทนกลุ่มเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ กลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความที่กองบังคับการกองปราบปราม ทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีคดีความกลับไม่คืบหน้า อีกทั้งตนเองยังถูกกลุ่มผู้ต้องหาฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและอาญา แต่ทุกคดีศาลยกฟ้องทั้งหมด ทั้งนี้พยว่าการกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนร้ายฮึกเหิม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อีกทั้งเมื่อผู้เสียหายได้มีการรวมตัวไปทำเรื่องร้องเรียนกับทางผู้บังคับการบก.ปอศ. รวมถึง ผู้บัญชาการกรมสอบสวนกลาง และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ในขณะนั้น) มาแล้ว แต่ก็ไม่คืบหน้าเช่นเคย จึงได้รวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เมื่อปี 2557 เนื่องจากกลุ่มคนร้ายเป็นผู้มีอิทธิพล จนสำนวนคดีแล้วเสร็จในปี 2560
ซึ่งทางDSI ได้สรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา 13 คน เพิ่มเติมจากที่ตำรวจทำไว้ แต่ทางอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้องเพียง 4 คน จึงถือเป็นการสั่งฟ้องผู้ต้องหาไม่ครบจำนวน ทำให้กลุ่มผู้เสียหายไม่สามารถติดตามเรียกร้องค่าเสียหายได้ครบ จึงมารวมตัวกันเพื่อขอความเป็นธรรมดังกล่าว