อาชญากรรม

กลุ่มนักดนตรีกลางคืน ฟ้องรัฐปิดสถานบันเทิงไร้เยียวยา

วันนี้ (26 พ.ย.) เวลา 09.00 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.ก้าวไกล ได้แก่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมายังศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เพื่อเป็นตัวกลางในการยื่นฟ้องแบบรวมกลุ่ม (Class Action) ให้กับกลุ่ม ศิลปิน-นักดนตรี ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านอาหารที่มีการให้แสดงดนตรี การห้ามจัดอีเวนท์ ห้ามรวมกลุ่ม เพื่อเป็นการเรียกค่าเสียหายจากการบริหารผิดพลาดของภาครัฐ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า วันนี้ทางพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนจากประชาชนเพื่อช่วยเหลือในการฟ้องแบบกลุ่ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากภาครัฐ ครั้งนี้เป็นการยื่นฟ้องโดยโจทก์ที่เป็นนักดนตรี นักแสดงและผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระที่เกี่ยวกับธุรกิจกลางคืน ซึ่งเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่ได้เผชิญกับสภาพเช่นนี้ โดยการเยียวยานั้นเป็นไปอย่างกระเหม็ดกระแหม่ ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงเป็นที่มาสำหรับการพึ่งพากระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ภาครัฐได้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่านักดนตรีเหล่านี้มีรายได้จากการเล่นดนตรีเป็นหลัก จนถึงวันนี้ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด ซึ่งทาง ศบค. จะมีการพิจารณาช่วงเวลาการเปิดอย่างแน่ชัดในวันนี้ว่าสามารถเปิดได้ในช่วงเวลาใด แต่ข่าวดีที่มาล่าช้าไม่นับว่าเป็นข่าวดี

ด้าน นายปกรณ์ โพธิ์แสงดา สมาชิกวง I hear brand ผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รับผลกระทบและเสียหายโดยตรง 100% ตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นับได้ว่าสายงานนี้ไม่มีงานเลย จากงานที่มีอยู่ต่อเดือนประมาณ 20-30 งาน ต่อเนื่องจนถึงช่วง ต.ค. ก็ยังคงไม่มีงาน นับได้ว่าเป็นศูนย์ จนกระทั่งเดือน ธ.ค.สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น และไม่มีการเยียวยาอะไรทั้งสิ้น นายปกรณ์ ยังกล่าวว่า มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับตนเป็นตัวแทนของผู้เสียจำนวน 32 คน ยกตัวอย่างกรณีของตน ที่ต้องถูกยกเลิกงานไม่ต่ำกว่า 100 งานในช่วงที่ผ่านมา จนต้องขายบ้านที่ต้องอาศัยเพื่อนำเงินมัดจำมาคืนลูกค้า ส่วนจะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่นั้น

น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า จะใช้วิธีการคำนวณแบบการชดเชยรายได้ โดยเอารายได้ที่เคยรับตอนปี 2562 มาเป็นหลักฐาน โดยโจทก์รายนี้ มีหลักฐานของรายได้ชัดเจนของการยื่นภาษี ซึ่งจะใช้หลักการนี้กับผู้เสียหายทั้งหมดที่โดนปิดหรือโดนระงับไป ส่วนการระบุตัวเลขการเรียกร้องค่าเสียหาย

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การระบุตัวเลขของอาชีพนักดนตรีแบบชัดเจนค่อนข้างยาก เนื่องจากว่าแต่ละคนมีเรทราคาที่แตกกต่างกัน อยู่ที่ศาลว่าจะพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วคำนวณออกมาเป็นตัวเลขของแต่ละบุคคลเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าล้วนแตกต่างกันออกไป

น.ส.ศิริกัญญา ยังได้ยกตัวอย่างของอีกกรณีที่มีการเรียกค่าเสียหาย ว่า เป็นโจทก์ที่ยื่นฟ้องรายเดียวเป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท แต่ว่าความเสียหายไม่ว่าจะเล็กจะน้อยก็เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งต่อเนื่องถึงเรื่องของอาชีพที่ผู้เสียหายไม่สามารถประกอบอาชีพได้ในช่วง 2 ปี ตัวเม็ดเงินอาจดูน้อย แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตใหญ่หลวงนัก ส่วนกระบวนการจากนี้เมื่อยื่นฟ้องแล้ว ต้องดูต่อไปว่าศาลจะมีการพิจารณาเป็นการฟ้องแบบกลุ่มหรือไม่ “เมื่อมองไปรอบกายของเราแล้ว คนที่จะให้ความยุติธรรมกับเราได้ในตอนนี้ เราคงหวังพึ่งอะไรจากทางรัฐบาลได้ไม่มากแล้ว เราก็คงต้องใช้กลไกทางกระบวนการยุติธรรม และหวังว่าศาลจะอำนวยความยุติธรรมให้กับเราในครั้งนี้ด้วย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *