นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการตรวจสอบที่ดินเขาสนฟาร์ม ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชาชน ว่ามีการ ครอบครองพื้นที่ของป่าตามที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อหรือไม่
โดยได้มอบหมายให้นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 2562 จากนั้นคณะทำงานได้ลงพื้นที่ สืบสวน ตรวจสอบข้อมูลหาพยานหลักฐานรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างนั้นนางสาวปารีณา ได้มีหนังสือ มาที่กรมป่าไม้ขอให้ตรวจสอบรังวัดในพื้นที่ อีกครั้งเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเจ้าหน้าที่คนใดมาแจ้งว่าที่ตนเองครอบครองอยู่นั้นบุกรุกพื้นที่ป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ลงไปตรวจสอบร่วมกับสปกอีกครั้งจนได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่าพื้นที่อยู่ในความครอบครองของนางสาวปารีณา บุกรุกพื้นที่ป่า รวม ของกรมป่าไม้ 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา พร้อมยืนยันว่าคดีนี้กรมป่าไม้ไม่ได้ประวิงเวลาและไม่ได้มีหลายมาตรฐาน ใช้แนวปฏิบัติเหมือนกันทุกคน
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ภายหลังการตรวจสอบที่ดินของนางสาวปารีณา พบการกระทำความผิดตามพ.ร.บ 3 ฉบับ พรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ,55 พรบ. ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 พรบส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ 2535 มาตรา 97 และประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9
ซึ่งหลังจากนี้อธิบดีกรมป่าไม้จัดตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายมาทำหน้าที่ประสานงานดูแลคดีนี้ และยืนยันว่าการทำงานของกรมป่าไม้ตรงไปตรงมาไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายใด
ทั้งนี้ ในระหว่างที่มีการแถลงข่าวในห้องประชุมของกรมป่าไม้ นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็น บิดาของ น.ส.ปารีณา ได้เข้ามานั่งฟังการแถลงข่าว จากนั้นได้นำแผนที่ ที่ดิน ครอบครอง มาสอบถาม อธิบดีกรมป่าไม้ ว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวมีจำนวนมาก ทราบไว้อย่างไร ว่า มีจำนวน 46 ไร่ ที่รุกพื้นที่ป่า ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมคณะทำงานได้มีการชี้แจงและชี้แผนที่ให้นายทวีได้รับทราบ
จากนั้นนายทวีได้แถลงชี้แจงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกับลูกสาวตนเองว่า ไม่ให้ฟ้องร้องดำเนินคดีอธิบดีกรมป่าไม้และคณะทำงาน เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ตามหน้าที่ ที่ต้อง ตรวจสอบ
ภายหลังการแถลงข่าว คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของกรมป่าไม้ได้นำสำนวนและเอกสารหลักฐาน มา แจ้งความดำเนินคดี กับนางสาวปารีณาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ซึ่ง พนักงานสอบสวนได้มีการรับสำนวนไว้เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป