ในโลกออนไลน์ มีการแชร์ เรื่องราวของตำรวจหนุ่ม สน.นางเลิ้ง ที่ให้การช่วยเหลือ หนุ่มอุดร ในการเดินทางกลับบ้าน
เฟสบุ๊ค Piyawat Promwongsanan ได้บอกเล่าเรื่องราวของ นายเอกพัฒน์ อามาตย์ทัศน์ อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ที่ชีวิตผกผัน ต้องมาร่อนเร่ อยู่ในเมืองหลวง เนื่องจากมีคนมาขโมยกระเป๋าที่มีเอกสารการสมัครงานและกระเป๋าเงิน ทำให้ไปสมัครงานไม่ได้ และไม่มีเงินกลับบ้าน จึงต้องร้อนเร่ ไปนอนตามสถานที่สาธารณะ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มกราคม ที่ผ่านมา
ส.ต.ท.ปิยวัฒน์ พรหมวงศนันท์ ผบ.หมู่(ป.)สน.นางเลิ้ง นายตำรวจหนุ่ม เจ้าของเรื่องราวชวนยิ้ม เล่าให้ฟังว่า สังเกตุเห็น นายเอกพัฒน์ มานั่งๆนอนๆอยู่ใกล้กับ สน.นางเลิ้ง หลายวันแล้ว จึงเข้าไปนั่งพูดคุย ได้ความว่า พื้นเพเขาเป็นคน จังหวัดอุดรธานี หลังจากหมดฤดูเกี่ยวข้าว แล้ว ก็จะเข้ามาหางานทำเป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ หิ้วกระเป๋ามา 2 ใบ แต่ถูกขโมยไป และเป็นกระเป๋าที่มีเอกสารสมัครงาน และ เงินติดตัว ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้ จึงไปแจ้งความไว้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา
“พี่เอกพัฒน์ บอกว่า เขาต้องร่อนเร่ไปนอนแถวสนามหลวง บ้าง และสวนลุมพินี บ้าง แต่ที่สวนลุมพินี นอนไม่ได้ เพราะถูกกวนจากพวกดมกาว และต้องกินข้าวจากเศษอาหารที่คนกินเหลือไว้ เพราะไม่กล้าขอเงินใคร กลัวคนอื่นจะหาว่าเป็นมิจฉาชีพ” ส.ต.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว
ส่วนหนุ่มอุดร ผู้โชคร้ายรายนี้ เลือกที่จะมาอยู่แถวสน.นางเลิ้ง เพราะช่วงนี้ ในพื้นที่ บางครั้งมีม็อบมาชุมนุม ทาง สน.จึงต้องจัดกำลัง ปจ.มาดูแลความเรียบร้อย และจัดข้าวกล่องมาเลี้ยงตำรวจ นายเอกพัฒน์ ก็อาศัยกินข้าวกล่อง ของตำรวจประทังชีวิต
หลังจากได้ฟังเรื่องราวชวนอลเวง ของนายเอกพัฒน์ แล้ว ส.ต.ท.ปิยวัฒน์ ผู้มีเมตตา ก็คิดว่า ควรจะส่งเขากลับภูมิลำเนา เพื่อไปตั้งหลักชีวิตก่อน เขาจึงพา นายเอกพัฒน์ ไปซื้อตั๋วรถไฟชั้น 3 ในราคา 275 บาท และพาไปขึ้นรถที่สถานีรถไฟสามเสน รอบเวลา 18.50 น. ของวันที่ 21 ก.พ.2562 ระหว่างรอขึ้นรถไฟก็ได้พูดคุยกัน ก่อนที่จะจากลา ส.ต.ท.ปิยวัฒน์ ได้ให้เงินนายเอกพัฒน์ ติดตัว ไป 100 บาท และซื้อขนมให้ไป 50 บาท แม้จะเป็นเงินไม่มากนักแต่ก็ช่วยส่งผู้ชายคนหนึ่งกลับบ้านได้
ส.ต.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า รับราชการตำรวจ ที่ สน.นางเลิ้ง มา 3 ปี และมักมีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ และภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น แม้หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบตำรวจเท่าไหร่ แต่ก็อยากสะท้อนเรื่องราวดีๆของตำรวจที่มีจิตสาธารณะ ไม่เพิกเฉย กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ และน้ำใจเพียงเล็กน้อยที่สามารถแสดงต่อคนที่เดือดร้อน มันอาจเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของผู้รับ