นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues พร้อมทนายความ เดินทางมาที่ศาลแขวงดุสิต ตามหมายเรียกในข้อหา ทําร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391, ทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 และ ทำให้ปรากฏซึ่งรูปรอยใด ๆ บนถนนหรือที่สาธารณะ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12 ในคดีสาดสี จากเหตุการณ์หน้าสน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563
โดย นายไชยอมร กล่าวว่า เดิมตนถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามพรบ.ความสะอาด และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเป็นทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่เกินกว่าเหตุไปมาก ส่วนตัวมองว่าการแจกจ่ายคดีเป็นจำนวนมากให้แก่แกนนำในการชุมนุมต่าง ๆ ถือเป็นยุทธศาสตร์ของรัฐไทยที่จะใช้ก่อกวน แล้วก็สร้างความลำบากให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย
นายไชยอมร ยังระบุว่า วันนี้โดยหลักจะเป็นการไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีที่ถูกทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตนมองว่าการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการสาดสีใส่เครื่องแบบตำรวจที่ได้ทำไป เป็นงานศิลปะที่มีคุณค่า อยากจะขอนำมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ ตนไม่ได้มีความกังวลอะไร ขอเพียงให้ออกมาในรูปแบบที่สามารถพูดคุยกันได้ เพราะไม่เคยมองเจ้าหน้าที่รัฐเป็นศัตรู คิดว่าการให้เกียรติกันคือทางออกที่ดีทั้งสำหรับคดีนี้ และสำหรับประเทศด้วย หากใครได้เห็นหลักฐานคลิปภาพเหตุการณ์ในวันนั้น ก็จะรับรู้ว่าเป็นการโดนตัว ฉุดยื้อกันตามปกติ เผลอๆอาจเป็นมวลชนดันเข้ามาด้วยซ้ำ ดังนั้นมองว่า การสัมผัสตัวในลักษณะนี้จึงไม่ควรถูกนำมาใช้ในการกล่าวหาว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย คดีของตนเป็นเครื่องสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของการบังคับบัญชาแบบบนสู่ล่าง ที่ส่งผลให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาต้องเกิดความลำบากใจในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับเหตุการณ์ในวันดังกล่าว มีกลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรม และศิลปินแร็ป ที่ถูกออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีเข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563ซึ่งนายไชยอมร ได้ทำการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งยืนอยู่หลังแผงเหล็กหน้า สน.สำราญราษฎร์