ในงานอุ่นไอรักคลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ที่จัดขึ้นบริเวณ ลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า มีซุ้มกิจกรรมจากหลากหลายหน่วยงานที่ ประชาชนให้ความสนใจ เข้าไปเยี่ยมชม และแวะเวียนถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นอกจากจะเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบ ดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจรแล้ว ในปีนี้ยังจะได้จัดสร้าง “โรงพักริมคลอง” ซึ่งเป็นการจำลองมาจากโรงพักโบราณสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง เป็นยุคของตำรวจที่มี มหาอามาตย์โท อีริกเซ็นต์ เย ลอสัน เป็นอธิบดีกรมกองตระเวน คนที่ 4 ดำรงตำแหน่งในช่วงปี พ.ศ. 2447 – พ.ศ. 2456 และมี พลตรี พระยาวาสุเทพ เป็นอธิบดีกรมตำรวจภูธรคนที่ 5 ดำรงตำแหน่งในช่วงปี พ.ศ. 2456 – พ.ศ. 2458
ภายใน “โรงพักริมคลอง” เป็นการจำลองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในสมัยก่อนที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชน ที่อาศัยน้ำเป็นเส้นทางหลักในการไปมาหาสู่กัน รวมถึงการประกอบธุรกิจ ในปีนี้ประชาชนยังสามารถ มาใช้บริการรับแจ้งเหตุได้จริงที่ “โรงพักริมคลอง” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวมใส่ชุดตำรวจย้อนยุคคอยให้บริการและรับแจ้งเหตุรวมถึง การมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่ระลึกด้วย โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน มายื่นให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่บนโรงพักริมคลอง เพียงเท่านี้ ก็จะได้บันทึกประจำวันกลับบ้านไปเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีความบันเทิง ดนตรี รวมทั้งการแสดงความสามารถของสุนัขตำรวจและม้าตำรวจ รวมถึงการละเล่นต่างๆที่ประยุกต์จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
พ.ต.ท.สุทธิชัย คำมี สารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง ในฐานะหัวหน้าสถานี โรงพักริมคลอง เปิดเผยว่า ในแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของทุกสถานีตำรวจนครบาล ในสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน มาเข้าเวรให้บริการประชาชน ที่ โรงพักริมคลอง วันละ 8 นาย โดยคอนเซ็ปต์ของงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสายน้ำ ดังนั้น ในปีนี้ จึงตั้งชื่อของโรงพักแห่งนี้ว่า “โรงพักริมคลอง” ส่วนชุดข้าราชการตำรวจโบราณที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสวมใส่ ขณะปฏิบัติหน้าที่บนโรงพักริมคลอง เป็นชุดของตำรวจในยุครัชกาลที่ 5
“ในการให้บริการประชาชน ในวันธรรมดา จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะให้บริการไปจนถึงเวลา 22.00 น. ตั้งแต่เปิดงาน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนถึง 13 ธ.ค. 2561 มีประชาชนให้ความสนใจแวะเวียนมาลงประจำวัน รวมประมาณ 2,500 คน” หัวหน้าสถานีโรงพักริมคลอง กล่าว
สำหรับเครื่องแบบข้าราชการตำรวจย้อนยุคที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงาน และบริเวณโรงพักริมคลอง ในปีนี้ลักษณะเป็นกางเกงขายาวและเสื้อแขนยาว กระดุมแบบทองขาว เข็มขัดหนังสีดำคาดทับเสื้อ มีสายสะพายข้างสีดำพาดเฉียงทับเสื้อ ใช้หมวกแฮลเม็ดสีดำ มีตราอาร์มแผ่นดินเงินดวงใหญ่ติดหน้าหมวก ซึ่งเป็นเครื่องแบบในยุคข้าราชการตำรวจที่เป็นที่รู้จัก คือ พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช
นอกเหนือจาก “โรงพักริมคลอง” แล้ว ที่ได้รับความสนใจจากประชาชน ที่มาเที่ยวชมงาน แวะมาถ่ายภาพและลงประจำวันเป็นที่ระลึก แล้ว บริเวณด้านหลังอาคารของโรงพักริมคลอง ยังมีบูธของ กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่มาจัดแสดงนิทรรศการ และให้ประชาชนร่วมกิจกรรม ได้แก่ การสเก็ตช์ภาพเด็กพลัดหลง มีการให้ความรู้ในเรื่องของการสเก็ตช์ภาพ เด็กพลัดหลง โดยการใช้เทคโนโลยี Age progressionซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำภาพจำลองเทียบเท่าอายุปัจจุบันของเด็กพลัดหลง หาก เด็กพลัดหลง มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะมีการทำภาพจำลองเทียบเท่าอายุปัจจุบันทุกๆ 2 ปี เนื่องจากสภาพทางกายภาพ จะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย จึงต้องทำภาพจำลองให้ใกล้เคียงมากที่สุด และถ้าอายุเกิน 18 ปี จะทำภาพจำลองทุกๆ 5 ปี ซึ่งภายในงานได้มีการนำภาพเด็กหายที่ใช้เทคโนโลยี Age progression มาให้ได้ชมด้วย
การสเก็ตช์ภาพคนร้าย มีการให้ความรู้ในเรื่องของ การสังเกต จดจำ ตำหนิรูปพรรณ ลักษณะของใบหน้าแบบต่าง ๆ ประชาชนสามารถมาร่วมกิจกรรมได้ที่ซุ้มของกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ที่บริเวณด้านข้างโรงพักริมคลองซึ่งจะมีกิจกรรมเสริมทักษะในด้านการสังเกต จดจำ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน โดยจะมีภาพใบหน้าต่าง ๆ ให้ประชาชนได้ทดลองจดจำ แล้วจับคู่กับใบหน้าในคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้อง
และบริเวณจุดจัดแสดงนิทรรศการ กองทะเบียนประวัติอาชญากร ยังมีกลุ่มน้องๆนักศึกษา คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร 9-10 คน มาให้บริการวาดภาพสเก็ตซ์ ให้กับผู้ที่มาร่วมงานอุ่นไอรักฯ ได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยจะมีน้องๆมาคอยแจกบัตรคิวให้นั่งรอวาดภาพ ส่วนค่าใช้จ่าย ก็แล้วแต่ผู้รับบริการ จะมอบให้กับน้องๆเป็นสินน้ำใจ