ตำรวจสืบสวนภาค 8 ร่วมกับ ตำรวจสืบสวนจังหวัดชุมพร และ สภ.ท่าแซะ สืบสวนแก๊งทวงหนี้ดอกเบี้ยโหด ทำให้ทราบว่าแก๊งทวงหนี้ ได้เข้ามาในพื้นที่เพื่อมาเก็บดอกเบี้ยในเขต อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงไปเฝ้าสังเกตุการณ์ เมื่อแก๊งทวงหนี้ปรากฎตัวที่บ้านพักของลูกหนี้รายหนึ่ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ผู้ต้องหา 2 คน และ ในเวลาไล่เลี่ยกันปรากฎว่า มีแก๊งทวงหนี้อีก 2 คน ได้เข้ามาทวงหนี้กับลูกหนี้รายเดียวกัน ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ , เงินสด , เอกสารแนะน้าลูกค้า , บัญชีการเก็บเงินกู้รายวัน , สมุดบัญชีธนาคาร และรถกระบะ โดยแจ้งหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ จ.ชุมพร ว่าได้กู้ยืมเงินจากแก็งทวงหนี้ โดยจะต้อฝชำระดอกเบี้ยในอตราที่สูง ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี บางแก๊งคิดดอกเบี้ยร้อยละ 304.17 ต่อปี แล้วแต่ตกลงกัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และหากลูกหนี้ ไม่มีเงินมาจ่ายชำระดอกเบี้ย หรือเงินต้น แก๊งทวงหนี้ก็จะขุ่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว รวมทั้งขุ่มขู่จะอุ้มตัวน้องสาวของลูกหนี้รายนี้ไปขัดดอก
จากการสืบสวนพบว่า แก๊งทวงหนี้ บางส่วนเป็นแก๊งที่มาจากภาคตะวันออก จะมาปล่อยกู้ในพื้นที่ จ.ชุมพร ,นครศรีธรรมราช และ จ.ทางภาคใต้ โดยวิธีการจะเปิดเฟซบุ๊กให้กู้เงินด่วน พร้อมกับให้ ไอดีไลน์ หรือ คิวอาร์โคส เพื่อให้ผู้ที่สนใจ หรือต้องการเงินด่วนติดต่อไปพูดคุยกู้ยืมเงิน ซึ่งผู้เสียหายรายที่ถูกขู่อุ้มตัวน้องสาวไปขัดดอดได้กู้ยืมจาก 2 แก๊ง มูลหนี้รวมกัน 1.3 แสน บาท โดยจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันรวมกันสูงถึงวันละ 5 พันบาท ตำรวจจึงฝากเตือนประชาชน ให้กู้เงินจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบซ้ำเติมความเดือดร้อนในช่วงโควิดระบาด
