ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีนายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค1มอบอำนาจให้นายเจษฎา คงรอด ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อศาลจังหวัดสระบุรีกล่าวหาในฐานความผิดดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษาในการพิจารณา หรือพิพากษาคดี เเละร้องเรียนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
กรณีที่ถูกคำสั่งของประธานศาลฎีกา ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 โดยไม่มีความเป็นธรรม โดยเรื่องที่ยื่นเป็นกรณีที่นายปรเมษฐ์ ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าแทรกแซงการพิจารณาคดี หมายดำที่ อท. 84/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ระหว่างนายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช., น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. และนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทั้งที่นายปรเมษฐ์เป็นเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าว และได้พิจารณาสั่งยกคำร้อง
เเหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมกล่าวถึงกรณีของนายปรเมษฐ์ ว่า นับเป็นครั้งเเรกของความขัดเเย้งระหว่างศาลยุติธรรมกับองค์กรอิสระเเต่น่าจะมีมูลเหตุที่บางฝ่ายดำเนินการผิดขั้นตอนเเละระเบียบปฏิบัติจนเปิดช่องให้นายปรเมษฐ์ยื่นเรื่องดังกล่าวในสองช่องทางคือฟ้องศาลเเละยื่นร้องเรียนต่อกมธ. เพราะการที่มีคำสั่งให้ย้าย อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 โดยยังมิได้รับฟังคำชี้แจงจากนายปรเมษฐ์นั้นว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรเเละจะชี้เเจงอย่างไร ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาเเละยังทราบกระเเสข่าวในวงการตุลาการว่ากรรมการตุลาการบางคนหวังจะขยับไปทำหน้าที่อื่นในบางองค์กรอิสระในอนาคตจากกรณีของนายปรเมษฐ์อีกด้วย รวมไปถึงต้องจับตาว่า ผู้ใดจะเป็นผู้มานั่งในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 อีกด้วย
