นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง พร้อมด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และแกนนำกลุ่มราษฎร รวม 17 คน เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ที่นัดหมายสั่งฟ้องคดีที่ร่วมกันชุมนุมภายในสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 โดย นางสาวปนัสยา กล่าวว่า ยังคงคาดหวังว่า จะได้รับความยุติธรรมจากศาล และได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดี เพราะหากศาลยังไม่มีคำพิพากษา ก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ รวมทั้ง ผู้ที่ไม่ได้การประกันก่อนหน้านี้ จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน แต่เบื้องต้น ได้เตรียมใจไว้แล้ว และครอบครัวตัวเองก็ค่อนข้างเข้มแข็งว่าหากจะต้องเข้าเรือนจำ ก็ยังมีคนที่เหลือเดินหน้าต่อสู้ต่อ
ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า ข้อหาที่เกือบทุกคนในกลุ่มนี้ ถูกดำเนินคดี คือ ความผิดมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และมาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาอื่น ๆ รวม 10 ข้อหา แตกต่างกันไป โดยมีเพียง 3 คน ที่ถูกดำเนินคคีในมาตรา 112 คือ นางสาวปรัสยา, นายจตุภัทร์ และนายภาณุพงศ์ ทั้งนี้ แม้จะเชื่อว่า วันนี้ อัยการจะสั่งฟ้องคดี และทั้งหมดอาจไม่ได้รับการประกันตัว แต่ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้ขอประกันไว้ 4 – 5 แสนบาทต่อคน
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้อัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหารวม 18 คน ในฐานความผิด มาตรา 112, 116, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และข้อหาอื่น ๆ รวม 10 ข้อหา ซึ่งเป็นการสั่งเพิ่มเติมในคดีเดียวกับ 4 ผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังไปก่อนหน้านี้ โดยในส่วนของนายไชยอมร แก้ววิบูลน์พันธุ์ หรือ แอมมี่ ที่ถูกคุมขังและมีนัดส่งฟ้องในวันนี้ จะเป็นการส่งฟ้องผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนต์
ด้าน นายชาญชัย ชรานนท์นิวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันว่า การสั่งฟ้องในคดีนี้ ใช้มาตรฐานเดียวกับคดีอาญาอื่น ๆ โดยมีการพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งฟ้องศาลทันที ส่วนการประกันตัว ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
สำหรับบรรยากาศภายในอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด และบริเวณศาลอาญา เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยโดยรอบสถานที่ โดยมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน มาดูแลพื้นที่โดยรอบร่วมกับตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน และการติดต่อราชการเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าออกเพียงประตูเดียว และต้องผ่านจุดคัดกรองใต้อาคารก่อนเข้าไปในตัวอาคาร