ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ตามคดีอาญาที่ 7/2564 คดีกล่าวหา พ.ต.อ.ธิติสรรค์หรือโจ้ อุทธนผล ผู้ต้องหาที่ 1 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ผู้ต้องหาที่ 2 ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ผู้ต้องหาที่ 3 ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ผู้ต้องหาที่ 4 ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผู้ต้องหาที่ 5 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผู้ต้องหาที่ 6 และส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผู้ต้องหาที่ 7 ว่า
(1) เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
(2) เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ
หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
(3) ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน
หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
และ(4) ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,288,289(5),309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4,172 โดยคดีดังกล่าวอัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 วรรคท้าย เพราะเหตุคดีนี้สืบเนื่องจากนายจิระพงษ์หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ซึ่งถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูกฆ่าถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความความควบคุมของเจ้าพนักงาน (เหตุเกิดช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ สภ.นครสวรรค์)
สำนักงานอัยการสูงสุดขอแถลงให้ทราบว่า บัดนี้อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งคดีดังกล่าวแล้ว
โดยสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์หรือโจ้ อุทธนผล ผู้ต้องหาที่ 1 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ผู้ต้องหาที่ 2
ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ผู้ต้องหาที่ 3 ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ผู้ต้องหาที่ 4 ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผู้ต้องหาที่ 5 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผู้ต้องหาที่ 6 และส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผู้ต้องหาที่ 7 ทั้งสี่ข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งที่ 1960/2564 แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินคดีสำคัญเพื่อรับผิดชอบดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย
- นายวุฒิรัตน์ มีผดุง รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
- นายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3 คณะทำงาน
- นายครรชิต หุตะกมล อัยการผู้เชี่ยวชาญ คณะทำงาน
- นายอรินทัต ศรีขจรลาภ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงาน
- ว่าที่พ.ต.อ.ธงชัย กีรติธรรมากร อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงาน
- นางธารณี โกญจนาท เดวิสัน อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงานและเลขานุการ
ในวันนี้สำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริต ได้รับมอบหมายให้ยื่นฟ้องพ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือโจ้ อุทธนผล กับพวกทั้ง 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว
ด้านนายประยุทธ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุดมีอำนาจสั่งการแต่ผู้เดียว โดยดำเนินการพิจารณาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนแล้ว ซึ่งสำหรับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้ายนั้น โทษสถานเดียวคือการประหารชีวิต ซึ่งคดีดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทางอาญาต่อไป
โดยคำฟ้องที่ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในวันนี้ มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงและประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งมีหลักฐานประกอบการยื่นฟ้อง จำนวน 7 แฟ้ม
คาดว่าจะสามารถเอาผิดจำเลยทั้ง 7 คนได้ เนื่องจากกองปราบปรามรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการพิจารณาตัดสินของศาลต่อไป