วันที่ 16 ธันวาคม ที่ กองบังคับการปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( บก.ปทส. ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จะเข้ายื่นเอกสารหลักฐานสัญญาซื้อขายที่ดิน ให้พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. ทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งเพื่อนนายกรัฐมนตรี อดีตแม่ทัพภาค2 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงข้าราชการจำนวนมาก ที่ร่วมกันบุกรุกยึดครองที่ป่าสงวน ป่าไม้ สปก. โดยนำมาขายให้กับชาวบ้านจำนวนมาก พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 70,300 ไร่
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มายื่นของให้ทางบก.ปทส. ตรวจสอบการบุกรุกยึดครองที่ดิน สปก. ภ.บ.ท.5 ที่ดินป่าไม้ ป่าสงวน ทั้งหงด 4 ป่า อันแรกเป็นที่โกงกางที่มีทหารอดีตแม่ทัพภาค2 โดยให้ภรรยานำที่ดิน สปก. ภ.บ.ท.5 ไปขายให้ชาวบ้านจำนวนมาก รวมถึงนำที่ดินไปแบ่งเป็นล็อคเพื่อขายให้ทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งมีการปั่นราคาโดยอ้างรัฐมนตรีช่วย ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าจะเปลี่นที่ดิน ภ.บ.ท.5 และสปก.ให้เป็นโฉนด รวมถึงมีการยึดครองที่ดินป่าสงวนนับพันไร่ อีกทั้งยังมีนายทุนที่อยู่ในพรรคของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่เป็นสส.ไปยึดครองทำโรงแรม ซึ่งที่ดินดังกล่างเป็นที่ดินป่าสงวน
ทั้งนี้มีการยึดครองมานานซึ่งอยู่ในยุคที่มีการออกโฉนดโดยไม่ขอบบางส่วนมีการยื่นเรื่องให้ทางป่าไม้ตรวจสอบแล้ว แต่ทางป่าไม้ไม่สามารถตอบได้ว่ามีการยึดครองอย่างไร ซึ่งในที่ดินจำนวน 70,300 ไร่ จะเป็นผู้มีอิทธิพลที่เป็นทหารเป็นหลัก และเป็นเพื่อนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็น สนช. สว. บางคนเป็นผู้ยึดครอง พอมีการเตรียมออกระเบียบใหม่มาใช้ทำให้นายทุนเหล่านี้ตาลุกและนำมาปั่นราคา ฉ้อฉน ได้ ซึ่งนายทหารในทัพภาค 2 มีนำที่ดินไปขายให้กับทการชั้นผู้น้อยที่อยากมีที่ดินเป็นของตัวเอง ผ่อนชำระให้กับตนเองจำนวนมาก ซึ่งการกระทำการดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายทั้งสิ้นเนื่องจากที่ดิน สปก. ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้เนื่องจากไม่สามารถนำมาซื้อขายได้ อย่างไรก็ตามหากมีการตรวจสองกันจริงๆตนเชื่อว่าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนต้องร้อนๆหนาวๆกันไปตามกัน
อย่างไรก็ตามด้านพล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. ระบุว่าเบื้องต้นจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบ โดยมี พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปทส. เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการในขั้นตอนของกฏหมายต่อไป