ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยตัวแทนสื่อมวลชนและทนายความ นำเอกสารเข้าร้องต่อศาลแพ่งรัชดา เพื่อยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จากกรณีออกข้อกำหนดฉบับที่ 29 ให้อำนาจ กสทช. “ตัดเน็ต” ผู้โพสต์ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ซึ่งเป็นการออกคำสั่งโดยไม่มีอำนาจ ไม่มีความจำเป็น ไม่ได้สัดส่วน และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
นายนรเศรษฐ์ หนองนาตูม ทนายความ เปิดเผยว่า การยื่นฟ้องในวันนี้เพื่อให้ศาลพิจารณาการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และขอให้ศาลนัดไต่สวนคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากในมุมมองของสื่อมีการจำกัดความหวาดกลัวไว้ชัดเจน แต่ในกรณีนี้ไม่ได้ระบุความหมายที่ชัดเจนไว้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ อีกทั้งตามประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา9 ไม่ได้ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี สั่งให้ระงับตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ดังนั้นจึงเข้าข่ายความผิดบทบัญญัติจำกัดสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะการให้อำนาจเลขา กสทช.เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ประชาชนไม่มีช่องทางยื่นหนังสือเพื่อต่อสู้คดี
น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีชัย ตัวแทนสื่อมวลชน ได้ย้ำจุดยืนของสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมาสื่อปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักจริยธรรมมาโดยตลอดไม่เคยบิดเบือนหรือกล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐานหรือการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาสื่อมวลชนนำเสนอความจริงทุกอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ขณะเดียวกันมองว่าในสถานการณ์ที่ประชาชนหวังพึ่งสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับถูกปิดกั้นและนำกฎหมายมาควบคุมก็จะยิ่งทำให้ประชาชนไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือ จนท้ายที่สุดแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตในบ้านก็จะไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวความผิด เกรงกลัวกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีประกาศล่าสุดระบุ อนุโลมให้เฉพาะสื่อมวลชนที่สามารถนำเสนอข้อมูลได้ ในฐานะตัวแทนสื่อมวลชนมองว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่สื่อที่จะได้รับการอนุโลมแต่ต้องเป็นคนไทยทุกคนที่ควรได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมกัน