ศาลอาญา รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ 2 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.พรพรรณ หรือหยิน เศรษฐภากรณ์ สัญชาติไทย เป็นจำเลย เรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2472 มาตรา 10
จากกรณี จำเลยถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงกองทัพสหรัฐ โดยจำเลยได้ออกใบเสนอราคาน้ำมันดีเซลปลอมผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E- MAIL) และออกใบสั่งซื้อน้ำมันดีเซลปลอม ให้กับกองทัพสหรัฐฯที่นำเรือรบมาจอดเทียบท่าที่ประเทศไทยเมื่อเดือน พ.ย. 54 แต่เมื่อถึงเวลาจำเลยกลับไม่สามารถนำน้ำมันดีเซลส่งมอบให้ได้ ทำให้กองทัพสหรัฐฯได้รับความเสียหายกว่า 1 ล้านดอลลาห์สหรัฐ และทางการสหรัฐ ขอให้ศาลไทยมีคำสั่งอนุญาตให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา วันนี้ศาลเบิกตัว น.ส.พรพรรณจำเลย จากทัณฑสถานหญิงกลาง มาฟังคำพิพากษาโดยมีมารดา สามี และญาติๆ รวม 5 คนเดินทางมาให้กำลังใจ
ศาลเห็นว่า โจทก์เป็นเพียงลูกจ้างบริษัทฯในประเทศไทย ส่วนจำเลยอีก 2 ราย เป็นลูกจ้างบริษัทแม่ในประเทศสิงคโปร์ แม้ศาลมลรัฐแคลิฟอร์เนียจะพิพากษาให้จำคุกจำเลยชาวสิงคโปร์ทั้ง 2 คน ฐานฉ้อโกงฯเป็นเวลา 70 เดือน และ 46 เดือน ตามลำดับ แต่ศาลประเทศไทยก็ต้องพิจารณาถึงความผิดเป็นรายบุคคลไป
ทั้งนี้มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิด และมีเหตุสมควรส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ศาลสหรัฐฯหรือไม่
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความจำเลยที่นำสืบแล้วรับฟังได้ว่า เมื่อเรือรบกองทัพสหรัฐฯมาจอดเทียบท่าในประเทศไทยจะถือเป็นความลับ จำเลยจึงไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นช่วงเวลาใด และไม่ได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ปลอมดังกล่าว อีกทั้งโจทก์มีพยานเพียงปากเดียวนำสืบแต่เพียงว่า จำเลยส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ปลอมไปให้กองทัพสหรัฐฯ แต่ไม่ได้นำหัวจดหมายดังกล่าวมานำสืบให้ศาลเห็นว่า จำเลยได้กระทำความผิดอย่างไรบ้าง พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง คดีไม่มีมูลและไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ พิพากษายกฟ้อง ออกหมายปล่อยจำเลยภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่ฟังคำพิพากษา
ภายหลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้องมารดา สามี รวมทั้งญาติๆ ได้เขัามาสวมกอดแสดงความยินดีกับน.ส.พรพรรณ ในห้องพิจารณาคดี