นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทดสอบกำไล EM ของกรมคุมประพฤติ ที่ใช้ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาในระหว่างประกัน เพื่อป้องกันการหลบหนี // โดยมีศูนย์ควบคุมฯ คอยติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตลอด 24ชั่วโมงการทดสอบกำไล EM ครั้งนี้ เป็นการสุ่มตรวจ โดยนำ กำไล EM มาควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ ก่อนทดลองดึง กระชาก หรือ พยายามทำลายกำไล EM ซึ่งพบว่า มีสัญญาณเตือนเข้ามาที่ศูนย์ควบคุมฯ บริเวณชั้น 6 ของกรมคุมประพฤติ จากนั้น ได้ทดสอบการถอดกำไล EM ที่เจ้าหน้าที่ทดลองสวมใส่ไว้ ซึ่งพบว่า เมื่อนำมือแช่ในน้ำสบู่ หรือ น้ำยาล้างจาน แล้วค่อยๆดึงกำไล EM ออกมา สามารถทำได้ แต่ก็จะมีการแจ้งเตือนความผิดปกติของกำไล EM เข้ามายังศูนย์ควบคุมฯ
การทดสอบกำไล EM แล้วพบข้อบกพร่องว่าสามารถถอด หรือ สวมใส่กลับเข้าไปใหม่ได้ แม้ยังมีการล็อคสลักอยู่ ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที โดยให้ข้าราชการระดับสูงเป็นประธานการตรวจสอบ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ซึ่งต้องทราบผลภายใน 2 สัปดาห์
ขณะที่การตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ดูข้อกำหนดของผู้ซื้อกับผู้ว่าจ้าง หรือ TOR เป็นหลัก ว่า มีการระบุรายละเอียดไว้อย่างไร และข้อบกพร่องกำไล EM ที่พบ เป็นการผิดข้อกำหนด TOR หรือไม่ ซึ่งหากผิด TOR ให้สั่งยกเลิกและเรียกค่าปรับจากผู้ประมูลทันที
นายประสาน มหาลี้ตระกูล ด้านอธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า สำหรับกำไล EM ที่ใช้อยู่ตอนนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 และจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 กันยายน 2563
โดยตั้งแต่เริ่มใช้ ยังไม่พบผู้ถูกคุมประพฤติถอดกำไล เพื่อหลบหนี หรือ ละเมิดกฎเกณฑ์ ซึ่งพบเพียงความพยายามในการทุบทำลายกำไล EM เท่านั้น แต่ก็จำนวนไม่มาก
สรุปผลการติดกำไล EM ควบคุมตัวผู้องหา ปัจจุบันมีผู้ใช้ EM แล้วรวมจำนวน 2,879 คน มีผู้ถอด กำไล EM แล้ว 2,368 คน คงเหลือผู้ติด EM ในระบบควบคุมตัว 517 คน โดยฐานความผิดของผู้ติด EM สูงสุด 5 อันดับ คือ ฐานความผิพพรบ.จราจร 1,779 คน พรบ.ยาเสพติด 380 คน ขับรถประมาท 172 คน ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ 114 คน ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย 94 คน
