นายชาตรี พิณใย นิติกรชำนาญการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่งยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานสำเนาเอกสารภาพถ่าย ใบเสร็จชำระเงิน รวมถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการไม่ปฏิบัติตามมาตรการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ UCEP เนื่องจากมีการขอให้วางเงินมัดจำก่อนรับการรักษา เป็นเหตุให้นางสาววิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ พริตตี้วาวา เสียชีวิตในเวลาต่อมา เพื่อมาแจ้งความเอาผิดกับโรงพยาบาลดังกล่าว ในความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 36
นายชาตรี ระบุว่า คดีนี้มีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า กรณีการเข้ารับการรักษาตัวของพริตตีวาวา เข้าข่ายมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่สามารถใช้สิทธิ์ของ UCEP ได้ และแม้ว่าโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวจะให้การรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.สถานพยาบาล เช่น ไม่ได้ตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉิน , ไม่ได้แจ้งผลการคัดแยกของผู้ป่วยให้ญาติรับทราบ และมีการเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้ทราบว่าโรงพยาบาลได้ออกใบเสร็จรับเงินอันเป็นเท็จ โดยการเรียกเก็บเงินค่าอาหารผู้ป่วยโดยที่ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานอาหาร จัดทำหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลปลอมอีกด้วย
ขณะที่นายอัจฉริยะ ระบุว่า เรื่องการไม่ให้ความช่วยเหลือทันที มีเจ้าของบ้านเป็นพยานยืนยันได้ โดยมีการบันทึกหลักฐานบางส่วนไว้ หลังพบว่าทางโรงพยาบาลจะไม่ยอมรักษา หากไม่มีการวางเงินมัดจำไว้ก่อน ส่วนหลักฐานเรื่องใบเสร็จปลอม พบว่าภายหลังทางโรงพยาบาลได้พยายามจะขอคืนเงินให้ แต่เนื่องจากเรื่องนี้กลายเป็นคดีความ มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งไปแล้ว จึงไม่สามารถรับเงินดังกล่าวได้ ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าวันนี้มีการสอบสวนพยานชุดสุดท้าย และในวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม จะเริ่มเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อหา โดยจะทยอยเรียกมาทีละประมาณ 10 คน
ทางด้าน พันตำรวจเอกนำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า ใกล้จะสรุปผลการดำเนินคดีได้แล้ว โดยในวันนี้ได้นัดหมายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าสอบสวนปากคำถึงผลการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเริ่มเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหาได้ โดยจะมีการหารือกับพนักงานอัยการ เพื่อกำหนดวันนัดหมายในการออกหมายเรียกอีกครั้ง