ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เลื่อนอ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์คดีชายชุดดำ ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 50 ปี กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ชุมชนหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีวันที่ 10 เม.ย.53 พวกจำเลยร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ไปตามถ.ตะนาว ถ.ประชาธิปไตย(แยกคอกวัว)โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-5 ให้ยกฟ้อง ต่อมาจำเลยที่ 3,4 และ 5 ได้ยื่นประกันตัวไปคนละ 200,000 บาท
โดยศาลได้แจ้งให้จำเลยทั้งหมดรับทราบก่อนว่าศาลจะอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่จำเลยที่ 3 และ 4 ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คดีนี้ โดยศาลระบุว่าหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 3, 4 และ 5
ต่อมาจำเลยที่ 3-4 ได้ยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์ ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.60 ว่าการยื่นคำร้องนั้น ได้ล่วงเลยระยะเวลาในการยื่นขอขยายอุทธรณ์มาแล้ว จึงให้ยกคำร้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับให้จำเลยทั้งสองขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้เป็นเวลา 30 วันนับจากที่ศาลมีคำสั่งนี้ ซึ่งขณะนี้จำเลยที่ 3-4 ยังไม่ได้ยื่นคำอุทธรณ์และยังไม่แน่ว่าจำเลยทั้งสองจะยื่นอุทธรณ์คดีภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่
ดังนั้น ศาลศาลอุทธรณ์จึงยังไม่ได้มีคำพิพากษาในคดีนี้ เนื่ิองจากต้องรอความชัดเจนของจำเลยที่ 3-4 ก่อนว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เพื่อที่จะนำไปพิจารณาพร้อมกับอุทธรณ์ของโจทก์และจำเลยที่ 1, 2 และ 5 โดยระหว่างนี้ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ไว้ก่อน
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีทนายความที่รับผิดชอบดูแลคดีจำเลยที่ 3-4 ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์นั้น เพื่อให้มีการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ชี้ขาดเรื่องการยกประโยชน์แห่งความสงสัยของพยานหลักฐานโจทก์ ซึ่งจำเลยที่ 5 ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ดี ส่วนตัวเตรียมหารือกับจำเลยที่ 3-4 อีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้น จำเลยทั้งสองจะไม่ยื่นอุทธรณ์ ก็จะทำคำร้องยื่นต่อศาลอุทธรณ์แจ้งให้ทราบ เพื่อการพิจารณาคำอุทธรณ์คดีนี้ของจำเลยอื่นจะได้ดำเนินการต่อไป