ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายอลงกรณ์ พลบุตร อายุ 62 ปี อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริต ของคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล และผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 174, 181
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2546 จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ต่อ พ.ต.ท.สมควร พึ่งทรัพย์ และ พ.ต.ต.ประหยัด เฮ้ารัง พนักงานสอบสวนกองปราบ ว่า พล.ต.ต.ประเสริฐ พิทักษ์ธรรม ผบก.กองการสรรพาวุธ สำนักส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ พล.อ.ทศรฐ เมืองอ่ำ ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ร่วมกันทุจริตในการจัดซื้อเสื้อเกราะอ่อนป้องกันกระสุน ระหว่าง อผศ. กับกองสรรพาวุธ สตช.จำนวน 2,000 ตัว ราคาตัวละ 16,000 บาท รวมเป็นเงิน 32 ล้านบาท ซึ่งไม่โปร่งใส ราคาแพงเกินจริง เพื่อนำไปปฏิบัติงานในภาคใต้ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ พล.ต.ต.ประเสริฐ และ พล.อ.ทศรฐ ได้รับความเสียหาย โดยนายอลงกรณ์ให้การปฏิเสธ
โดย วันนี้นายอลงกรณ์ จำเลยซึ่งได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ ขณะที่ พล.ต.ต.ประเสริฐ ผู้เสียหายในฐานะโจทก์ร่วมก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาเช่นกัน
ทั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบแล้วเห็นว่า การที่จำเลยแจ้งความนั้น เนื่องจากได้รับเบาะแสการทุจริต และเป็นการกระทำในฐานะ ส.ส. และประธานตรวจสอบการทุจริต โดยเชื่อว่ามีการทุจริต แม้ ป.ป.ช.จะไต่สวนแล้วยังฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายกระทำผิดตามที่กล่าวหาก็ตาม จึงเชื่อว่าจำเลยทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรียกร้องประโยชน์ประเทศไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว เพราะไม่รู้จักกับผู้เสียหายเป็นการส่วนตัวมาก่อนไม่มีเหตุกลั่นแกล้ง เห็นควรพิพากษายกฟ้อง