พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ถึงผลการตรวจงาชาที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาคดีเล่าสัตว์ป่า ที่เบื้องต้น พบเป็นงาช้างแอฟริกา ซึ่งตามกฎหมาย กรมอุทยานฯ ไม่สามารถรับจดแจ้งได้ แต่พบว่า มีชื่อภรรยาของนายเปรมชัย เป็นผู้ครอบครอง ว่า ในคดีนี้ กรมอุทยานฯ ในฐานะผู้เสียหาย ต้องเป็นผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่จนถึงขณะนี้ กรมอุทยานฯ ยังไม่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งส่วนตัวก็สงสัยว่า ทำไมกรมอุทยานฯ ถึงรับจดแจ้งทั้งที่รู้ว่ามีความผิด / ส่วนการตรวจพิสูจน์เนื้อสัตว์ที่พบ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากกรมอุทยานฯ เพื่อยืนยันว่าเป็นเนื้อสัตว์ป่าหรือไม่ ซึ่งได้สอบถามข้อมูลมาหลายสัปดาห์แล้ว
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า นายเปรมชัย ซื้อเนื้อสัตว์จากกลุ่มชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงมาประกอบอาหาร ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากหมู่บ้านที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุที่สุด อยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่ปิด
อย่างไรก็ตาม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ตำรวจมีการแจ้งข้อหา ร่วมกันล่าสัตว์ป่า ซึ่งแสดงถึงเจตนาล่าสัตว์ไปนานแล้ว แต่กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีตำรวจทำคดีล่าช้า หรือไม่แจ้งข้อหาใดข้อหาหนึ่ง อาจเกิดจากความไม่เข้าใจกฎหมาย หรือ มีเจตนาให้ร้ายตำรวจ โดยยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกหวั่นไหว แม้จะมีความพยายามเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวชุดทำงานคดีนี้ เพราะมั่นใจว่า คดีนี้ไม่มีความล่าช้า และทำตามกฎหมายทุกอย่าง
ด้าน พลตำรวจตรีธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ปืนที่ยึดได้ขณะจับนายเปรมชัย ว่าปืนลูกซองกระสุนลูกปราย 1 นัด จำนวน 12 เม็ด ถูกใช้ยิงเสือดำจริง โดยพบลูกปรายที่หนังเสือ 3 นัด จากทั้งหมด 8 รู แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นคนยิง เพราะยากต่อการพิสูจน์ ทั้งคราบเขม่าดินปืน และลายนิ้วมือแฝง ส่วนการจำลองวิถีกระสุนของกรมอุทยานฯ ไม่สามารถยืนยันวิถีกระสุนได้ เนื่องจาก ไม่เจอเม็ดตะกั่วของกระสุนลูกปราบ และรูกระสุน
