พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมายของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้พิจารณาให้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี แจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มราษฎร กรณีด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายและและโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ก รวม 2 ข้อหา คือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้ปฎิบัติและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯโดยเตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกลาวหาเร็วๆนี้ ส่วนการที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ไฮโซนัทและภรรยา ซึ่งเป็น1ในผู้เสียหายถูก
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข่มขืนอนาจาร ขึ้นไปชี้จุดที่คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทนั้นมองว่าจะเป็นผลดีต่อตัวผู้เสียหายเอง
รองผบช.น.กล่าวว่าสำหรับความคืบหน้าคดีนั้น ปัจจุปันมีผู้เสียหาย 15 ราย แยกเป็นคดีข่มขืน 3 ราย อนาจาร 7 ราย ข่มขืนอนาจาร 1 ราย อนาจารพรากผู้เยาว์ 1ราย ขาดอายุความ 1 ราย คดีเกิดนอกราชอาณาจักร1รายและอยู่ระหว่างพิจารณาอีก1 ราย โดยเหยื่อรายที่6ที่ปรากฎคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้เสียหายและนายปริญญ์นั้น แม้ผู้เสียหายประสงค์จะกันเป็นพยานแต่ตำรวจพิจารณาแล้วไม่สามารถยอมความได้จึงต้องมีการดำเนินคดี
ส่วนกรณีที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ อ้างว่าผู้เสียหายคดีแรกไม่ให้ความร่วมมือกับตนเองเพราะมีอดีตตำรวจยศ พล.ต.ต.เข้ามาแทรกแซงนั้นได้มีการตรวจสอบแล้วทราบว่าเป็นข้าราชการตำรวจบำนาญที่ทางมารดาของผู้เสียหายให้ความเคารพนัยถือและได้โทรศัพท์ปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนตัวของอดีตตำรวจไม่ได้มีการเข้ามายุ่งในคดีหรือติดต่อพูดคุยกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด และผู้เสียหายประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับ นายปริญญ์ อย่างถึงที่สุดและมั่นใจในการทำงานของตำรวจและคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับทางเพศจึงไม่อยากจะออกสื่อหรือเป็นข่าว และเนื่องจากเป็นคดีแรกที่เพิ่งเกิดขึ้นการรวบรวมพยานหลักฐานจึงค่อยข้างครบถ้วนคาดว่าจะสรุปสำนวนให้อัยการได้เร็วๆนี้ พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีผู้ใหญ่จากพรรคการเมืองดังกล่าวเข้ามาแทรกแซงหรือพยายามช่วยเหลือผู้ต้องหาแน่นอน โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ดำเนินการอย่างโปร่งใสให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายจึงไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน
