พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.น. แถลงจับกุม นายวรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ์ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา และ นายธงชัย คำพันธ์ อายุ 31 ปี ผู้ตัองหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 20 มกราคม 2562 ผู้ต้องหา ตามหมายจับ “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง , ร่วมกันเรียกค่าไถ่ , ร่วมชิงทรัพย์ และร่วมกันกระทำความผิดต่อเสรีภาพ”
พฤติการณ์ของคดี คือ ผู้ต้องหาซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของ นางนฤมล หริรักษฐากูร ผู้เสียหาย เคยติดต่อขอยืมเงินจาก น.ส.อลิน เหมะรัตน์ บุตรสาวผู้เสียหายหลายครั้ง ซึ่ง น.ส.อลินฯ ก็ให้ยืมบ้างไม่ให้ยืมบ้าง ครั้งสุดท้ายผู้ต้องหาขอยืมเงินจำนวน 20,000 บาท แต่ได้รับการปฏิเสธ ผู้ต้องหากับพวกจึงได้เดินทางด้วยรถยนต์มาที่บ้านผู้เสียหายแล้วใช้อุบายทำทีอาสารับผู้เสียหายไปทำธุรกรรมทางการเงินย่านแจ้งวัฒนะ ระหว่างทางได้ร่วมกับพวกข่มขู่ โดยนายธงชัย คำพันธ์ ใช้กุญแจมือใส่ข้อมือผู้เสียหายพร้อมใช้อาวุธมีดข่มขู่ ไม่ให้ขัดขืน ส่วนนาย วรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ์ ได้ใช้โทรศัพท์ของผู้เสียหาย และของตนเองติดต่อมาเพื่อเรียกค่าไถ่ตัวผู้เสียหายจาก น.ส.อลินฯ บุตรสาวและนายอาณัติ หริรักษฐากูร บุตรชายคนโตของผู้เสียหาย จำนวน 3 ล้านบาท ต่อมาบุตรทั้งสองของผู้เสียหายได้พากันมาพบพนักงานสอบสวน สน.สามเสน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน ได้รับการติดต่อประสานทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก ว่าพบตัวผู้เสียหายอยู่ที่ร้านกาแฟในเขตพื้นที่ โดยได้รับตัวมาไว้ที่ สภ.สามโคก
จากการสอบสวนผู้เสียหายได้ความว่า นายวรพงษ์ หลานชาย ข่มขู่เรียกเงิน ค่าไถ่ จำนวน 3,000,000 บาท แต่ยังไม่ทันได้เงิน ตนเองจึงได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ที่ติดตัวมาให้ไป ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหา จะปล่อยตัวให้ผู้เสียหายลงย่านร้านกาแฟ ในพื้นที่ สภ.สามโคก หลังจากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองได้ขับขี่รถยนต์พากันหลบหนีไป
จากนั้น ตำรวจสืบทราบว่านายวรพงษ์ฯ และนายธงชัยฯ ผู้ต้องหา ซึ่งศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ย่านหมู่บ้านประชานิเวศน์ 2 จึงสืบสวนติดตามจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี