อาชญากรรม

รวบเซลล์ขายรถ หนีคดี หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมหรู นาน 9 ปี

ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกันจับกุม นางสาวปุณยนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้หาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 233/2555 ลงวันที่ 3 กรกรฎาคม 2555 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดยจับกุม ได้ที่เต็นท์ขายรถมือสอง ถ.กาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2555 น.ส.ปุณยนุช หรือ กิ๊บ (ผู้ต้องหา) ซึ่งขณะก่อเหตุอายุ 24 ปี ได้ประกาศในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ว่าตนเองสามารถนำเข้ากระเป๋า แบรนด์เนมหรูชื่อดังมาในประเทศได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด โดยอ้างว่าสามารถฝากซื้อ หรือรับหิ้ว กับพนักงานต้อนรับจากสายการบินหนึ่ง ซึ่งทางผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมกับผู้ต้องหา โดยในช่วงแรกผู้ต้องหาสามารถส่งมอบสินค้าตามที่ได้ตกลง แต่ภายหลังเริ่มมีการส่งมอบสินค้าล่าช้า จนกระทั่งไม่สามารถส่งมอบสินค้าดังกล่าวได้ ซึ่งทำให้ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าเเจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ต่อพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุมาแล้วจำนวนหลายครั้ง มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท และมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากโพสต์เตือนภัยในเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ

จนกระทั่งวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานเป็นเซลล์ขายรถยนต์มือสอง ที่เต็นท์ขายรถบริเวณ ถ.กาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ โดยพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณเต็นท์ขายรถมือสองดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การ “ภาคเสธ” โดยให้การว่า ในช่วงปีที่ออกหมายจับนั้น ตนได้มีการโพสต์ประกาศขายกระเป๋าแบรนด์เนมจริง โดยกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นจะถูกขนส่งมาจากต่างประเทศ ผ่านพนักงานต้อนรับจากสายการบินหนึ่ง ซึ่งต่อมาภายหลังพนักงานต้อนรับจากสายการบินคนดังกล่าวไม่มีการจัดส่งกระเป๋าตามที่ตกลงกันไว้ ตนจึงไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายได้ตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งตนได้พยายามชำระค่าสินค้าไปแล้วบางส่วน ซึ่งยังมีบางส่วนที่ตนไม่สามารถคืนเงินให้ได้

นอกจากหมายจับดังกล่าว ผู้ต้องหายังมีหมายจับที่ต้องการตัวอีกจำนวน 2 หมาย ซึ่งเป็นการฉ้อโกงในลักษณะแบบเดียวกัน อีก 2 หมายจับของ ศาลแขวงสมุทรปราการ และ ศาลแขวงธนบุรี ใน ข้อหา “ฉ้อโกง”

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *