ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวจินดา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเทิง ที่ 56/2563 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่แคมป์พักคนงานก่อสร้าง ถนนสายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก ช่วงเดือนกันยายน 2561 มีผู้เสียหาย ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้นำเงินมาลงทุนในการซื้อขายทองคำ การันตีด้วยผลตอบแทนสูง โดยมิจฉาชีพมีการโฆษณาเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ค ชักชวนประชาชนทั่วไปให้มาร่วมลงทุน โดยอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด มาจำหน่ายให้กับสมาชิกนำไปขายเก็งกำไรต่อ และอ้างว่าการซื้อขายทองคำดังกล่าวไม่มีหน้าร้าน ไม่ต้องเสียค่าดำเนินการใดๆ จึงทำให้สามารถขายทองคำได้ในราคาที่ถูก
ในช่วงแรก ผู้เสียหายได้รับทองคำหรือผลกำไรจากเงินส่วนต่างจริง หลังจากนั้นเมื่อผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ กลุ่มมิจฉาชีพจะใช้อุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่ม ซึ่งภายหลังจากการลงทุนเพิ่ม ผู้เสียห ายกลับไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่มิจฉาชีพกล่าวอ้าง จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงได้เข้าเเจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย โดยจากการตรวจสอบทราบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุนกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 200 ล้านบาท 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมขบวนการหลอกลงทุนซื้อขายทองคำดังกล่าว โดยมี น.ส.พิราอรฯ และนายไพรัตน์ฯ เป็นหัวหน้าขบวนการ และยังคงดำเนินการสืบสวนติดตามผู้ร่วมขบวนการรายอื่นที่ยังไม่ได้ถูกจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าตนเป็นกลุ่มเครือข่ายขบวนการหลอกลวงลงทุนทองคำของ น.ส.พิราอรฯ และนายไพรัตน์ฯ ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้จริง ซึ่งเมื่อตนทราบข่าวว่า น.ส.พิราอรฯ และนายไพรัตน์ฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม จึงเกิดความกลัว ปิดเฟสบุ๊ค เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และหลบหนีออกนอกพื้นที่
